เจ้าของ "หลุยส์ วิตตอง" ปัดข่าวไม่ได้ขอสัญชาติเบลเยียม เพื่อหวังหนีเสียภาษีร้อยละ 75

นายแบร์นาร์ด อาร์โนลต์ เจ้าของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง และมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของฝรั่งเศส

ปฏิเสธข่าวยื่นขอสัญชาติเบลเยียมเพื่อเลี่ยงการเสียภาษีในอัตราร้อยละ 75 ที่รัฐบาลฝรั่งเศสเตรียมเรียกเก็บจากคนร่ำรวย

นายอาร์โนลต์ มหาเศรษฐีอันดับสี่ของโลกเปิดเผยว่า เขาจะยังคงเป็นชาวฝรั่งเศสและเป็นผู้เสียภาษีที่อยู่ในฝรั่งเศสต่อไป

ดังนั้น จึงต้องมีหน้าที่เสียภาษีเช่นเดียวกับชาวฝรั่งเศสทุกคน ขณะนี้ประเทศต้องอาศัยทุกคนทำหน้าที่ของตนเองเพื่อเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจท่ามกลางข้อจำกัดด้านงบประมาณ

ส่วนเรื่องที่ยื่นขอสัญชาติเบลเยียมเพิ่มอีกหนึ่งสัญชาติเป็นเรื่องส่วนตัวซึ่งเขาขอเดินเรื่องมาแล้วหลายเดือน

ข่าวของนายอาร์โนลต์ มีขึ้นท่ามกลางการถกเถียงต่อคำกล่าวของประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่จะเริ่มการจัดเก็บภาษีร้อยละ 75 จากมหาเศรษฐีที่มีรายได้เกินกว่าปีละ 1 ล้านยูโร

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า นายอาร์โนลต์ ประธานบริษัทแอลวีเอ็มเอช เจ้าของแบรนด์เนมหรูหลายยี่ห้อ ซึ่งนิตยสารฟอร์บส์คาดการณ์ว่า เขามีสินทรัพย์ราว 41,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีความสนิทสนมกับนายนิโกลาส์ ซาร์โกซี อดีตผู้นำฝรั่งเศส

แหล่งข่าวเผยว่า นายอาร์โนลต์ เตรียมลงทุนโครงการสำคัญโครงการหนึ่ง หากได้รับสัญชาติเบลเยียมจะดำเนินการได้สะดวกขึ้น ขณะที่แหล่งข่าวอีกคนเผยว่า เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับนายอัลแบร์ แฟร์ มหาเศรษฐีเบลเยียมที่เป็นเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจของเขา

ข่าวเจ้าของหลุยส์ วิตตอง ยื่นขอสัญชาติเบลเยียมปรากฏในหนังสือพิมพ์ลา ลิเบอร์ เบลจีกของเบลเยียม ทำให้นักการเมืองในฝรั่งเศสทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาพากันตราหน้าเขาว่าเป็นคนขายชาติ

นายอาร์โนลต์ เคยย้ายไปพำนักในสหรัฐเป็นเวลา 3 ปีหลังจากนายฟรองซัวส์ มิตแตร์รองด์ จากพรรคสังคมนิยมชนะเลือกตั้งในปี 2524 และย้ายกลับเมื่อพรรคสังคมนิยมปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจเป็นแนวอนุรักษ์นิยมมากขึ้น ส่วนเรื่องภาษีร้อยละ 75 นั้น ประธานาธิบดีโอลลองด์ ประกาศไว้ในการหาเสียงเมื่อต้นปีว่า จะเก็บภาษีอัตราดังกล่าวกับผู้มีรายได้เกิน 1 ล้านยูโร (ประมาณ 39 ล้านบาท) ต่อปี