เนชั่น “โป๊ะแตก” จริงมั้ย? ไม่สำคัญ ดูที่ผล “กำไร-ขาดทุน” ก็แล้วกัน

กลายเป็นสื่อที่ถูกเพ่งเล็งมากที่สุดในตอนนี้ เพราะหลังจากที่สื่อดังย่านบางนาเผยแพร่คลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นการสนทนาระหว่างอดีตนักการเมืองรุ่นเก๋ากับนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่มีเนื้อหาต่อรองกันในตำแหน่งการเมืองนั้น จนโลกโซเชียลมีเดียแห่กันแชร์และติดแฮชแท็ก #เนชั่นโป๊ะแตก กันต่อเนื่อง

>> โซเชียลกระหึ่ม #เนชั่นโป๊ะแตก แฉคลิปเสียงหวังดิสเครดิต ฮิตติดเทรนด์

จนล่าสุดวันนี้มีแฮชแท็ก #ถอนโฆษณาเนชั่น แซงขึ้นมาเป็นเทรนด์ติดอันดับที่ 1 ของไทยในทวิตเตอร์

โดยประเด็นดังกล่าวนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ลักษณะการทำงานของคนในวงการสื่อว่าจะต้องตรวจสอบก่อนนำเผยแพร่ให้ผู้ชมได้รับทราบข้อมูลทุกครั้ง เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการพิจารณาเนื้อหา

เนชั่นทีวี เป็นหนึ่งในบริษัทสื่อที่มีการผลัดใบ และเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่ของตำแหน่งผู้บริหาร การซื้อ-ขายกิจการ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อปรับตัวให้มีความคล่องตัวพร้อมลงสนามแข่งขันในวงการทีวีดิจิทัลได้อีกครั้ง อยากรู้หรือไม่ที่ผ่านมาเนชั่นทีวีมีผลงานด้านการทำกำไรอย่างไร?

Sanook! Money ได้ตรวจสอบข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเนชั่นทีวี เป็นบริษัทในเครือนิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น

บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 ต่อมาได้ถูกนำเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 โดยมีรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ดังนี้

• บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 71.45%
• นายสมบัติ พานิชชีวะ ถือหุ้น 3.01%
• บริษัท กรีนสยาม จำกัด ถือหุ้น 2.80%
• นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม ถือหุ้น 1.23%
• นายปราบดา หยุ่น ถือหุ้น 0.99%
• นายนิวัฒน์ แจ้งอริยวงศ์ ถือหุ้น 0.93%
• บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 0.81%
• นายศิริศักดิ์ เอกพิศุทธิ์สุนทร ถือหุ้น 0.53%

ดำเนินธุรกิจด้านบริการ ปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ 289.14 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้

• ปี 2558 รายได้ 846.15 ล้านบาท ขาดทุน 20.56 ล้านบาท
• ปี 2559 รายได้ 536.52 ล้านบาท ขาดทุน 275.46 ล้านบาท
• ปี 2560 รายได้ 539.09 ล้านบาท ขาดทุน 916.24 ล้านบาท

ส่วนผลประกอบการปี 2561 นั้น ทางบริษัทฯ ยังไม่ได้ดำเนินการส่งงบพร้อมแจ้งไปยัง กลต. ว่าจะขอส่งงบล่าช้าภายในวันที่ 29 มีนาคม 2562 เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลทางบัญชี ด้าน กลต. เองก็ได้ขึ้น SP หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน กรณีไม่ส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561