SEOHAN จัดนวัตกรรมความปลอดภัย หวังขยายฐานใหม่ลุยตลาดเซฟตี้

จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ป่าครั้งใหญ่ที่ประเทศเกาหลี ใกล้กรุงโซลที่ลุกลามเข้ามายังอาคารและบ้านเรือนหลายหลัง จนทำให้มีเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากถึงพันคนเลยทีเดียว

>> ไฟป่ามรณะเกาหลีใต้ ลามเข้าเมือง! ดับ 1 ศพ เจ็บ 11 ชาวบ้าน 4,000 คนหนีตาย

เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะต้องมีแผนรับมือกับเหตุเพลิงไหม้รวมถึงเอาตัวรอดให้สภาวะฉุกเฉิน ข้อมูลจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย ระบุว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นประมาณ 2,356 ครั้งต่อปี ส่วนมูลค่าที่จะสร้างความเสียหายอยู่ที่ตัวสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน อาคาร สำนักงาน โรงแรม คอนโดฯ สต๊อกสินค้า เครื่องจักร หรือแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้สามารถเลือกที่จะทำประกันอัคคีภัยติดเอาไว้ได้ เพื่อคุ้มครองในกรณีที่กรณีที่เกิดเหตุสร้างความเสียหาย

แน่นอนว่าเหตุเพลิงไหม้ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเพราะไม่ใช่แค่สินทรัพย์อย่างเดียวที่จะสูญหายอย่างเดียวแต่กลับเป็นมนุษย์ต่างหากที่จะต้องสูญเสียคนที่รัก และจะดีกว่าหรือไม่หากเรามีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพที่จะช่วยให้เอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ฉุกเฉินได้

SEOHAN เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยด้านอัคคีภัยจากประเทศเกาหลี โดยนำเข้ามาในประเทศเพียงรายเดียวเป็นเวลา 5 ปีแล้ว โดยคุณพรรษสรณ์ เกียรติก้องชยิน กรรมการผู้จัดการบริษัท SEOHAN F&C Co.,Ltd. ได้แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้แก่ รอกหนีไฟ ช่วยชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ เหมาะใช้งานกับส่วนบุคคล ที่อยู่อาศัย อาคาร บริษัทองค์กร ส่วนวิธีใช้แค่โรยตัวลงจากอาคารลงสู่ชั้นล่างได้ทันเวลา ซึ่งมีกลุ่มภาครัฐและเอกชนให้ความสนใจสั่งซื้อ

นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมเพิ่มความปลอดภัยในปี 2562 คือ เบาะลงนิรภัย แบบ Cylinder และ Fan มีหลายขนาดตามวัตถุประสงค์ที่ต่างกันออกไป  สำหรับรูปแบบการตลาดในปีนี้จะวางกลยุทธ์ด้วยการ Roadshow ที่เชียงใหม่ที่แรก เพื่อแนะนำอุปกรณ์สินค้า อุโมงค์หนีไฟ และภายในกลางปีนี้จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือ Fire Distinguisher คล้ายกับ Sprinkle ช่วยดับไฟเป็นวินาที ไม่เป็นน้ำ ไม่มีผงเคมี ไม่เป็นอันตราย และรักษาของมีค่าได้หลากหลายมากขึ้น เพราะไม่ใช้น้ำและผงเคมีเป็นส่วนประกอบ ทรัพย์สินและเอกสารสำคัญ เช่น โฉนดที่ดิน คอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป ธนบัตร ให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด จึงมั่นใจว่ากลุ่มลูกค้า ธนาคาร ห้างทอง และกลุ่มโรงรับจำนำ คือกลุ่มเป้าหมายสำคัญของทางบริษัท

ส่วนเป้ายอดขายของปี 2562 คาดว่าจะจำหน่ายรอกหนีไฟจำนวน 1,000 ชุด เบาะลม สำหรับอาคารที่สูง 5 ชั้นขึ้นไป คาดหวัง 100 ยูนิต โดยราคาต่อ 1 ชุด 400,000 บาท และอุโมงค์หนีไฟเริ่มต้นที่ 200,000 บาท เน้นการใช้งานแบบแนวดิ่ง เพราะเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือตัวเองพร้อมผู้อพยพได้ ส่วนกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มโรงพยาบาลและกลุ่มบริหารอาคาร