“เนลเฮาส์ อาคาเดมี่ “ แฟรนไชส์ “เพ้นท์เล็บ” อนาคตไกล
จากอดีตนักการตลาดหนุ่มที่มองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจร้านทำเล็บและช่องว่างที่เอสเอ็มอี
จะเข้าไปแทรกตัวอยู่ได้ถูกนำมาต่อยอดเป็นสถาบันสอนทุกเรื่องของเล็บ "เนลเฮาส์ อาคาเดมี่" เตรียมขยายธุรกิจไกลถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วยมาตราฐานการบริการในระดับสากล
เอกพล บุนนาค ผู้จัดการทั่วไป เนลเฮาส์ อาคาเดมี่ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจว่า "ผมเป็นคนชอบงานศิลปะเป็นทุนเดิม ประกอบกับมองว่าธุรกิจร้านทำเล็บมีโอกาสเติบโตในอนาคตได้จึงตัดสินใจเข้ามาลงทุนเต็มตัว
เริ่มจากการเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ประกอบการ และจึงขยายต่อเป็นร้านทำเล็บและสถาบันสอนวิชาชีพ แม้ว่าผมจะไม่ใช่ช่างทำเล็บมืออาชีพ
แต่เราได้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาร่วมธุรกิจด้วย ส่วนผมรับหน้าที่บริหารงานทั่วไป เช่นการตลาด การออกผลิตภัณฑ์ใหม่"
ปัจจุบัน เนลเฮาส์ อาคาเดมี่ ได้รับอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเปิดโรงเรียนสอนทำเล็บบุนนาค เป็นเอกชนรายแรกที่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ
จุดประสงค์เพื่อผลิตช่างทำเล็บคุณภาพป้อนเข้าสู่สถาบันฯ หรือนำไปประกอบอาชีพส่วนตัว มีอยู่ด้วยกัน 5 หลักสูตรคือ ตัด-ถอด เล็บด้วยอคริลิก ,ตัด-ถอด เล็บด้วยเจลเทคนิคพิเศษ และการดูแลเล็บมือเล็บเท้า
ซึ่งสถาบันฯได้รับใบรับรองการเรียนการสอนระดับอินเตอร์เนชั่นแนลถ้าสอบผ่านจากที่นี้สามารถประกอบอาชีพหรือเป็นอาจารย์สอนได้ทั่วโลก เป็นแห่งเดียวในไทยที่ผ่านมาตราฐานดังกล่าว
"กลุ่มเป้าหมายของเราคือชายหรือหญิงอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จุดเด่นของเราคือเป็นผู้เชี่ยวชาญครบวงจรสำหรับธุรกิจร้านทำเล็บ นอกจากฝึกวิชาชีพแล้วยังให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่จะเปิดร้านของตัวเองด้วย เช่นการเลือกทำเล การเลือกผลิตภัณฑ์ การดูแลลูกค้า"
รายละเอียดของหลักสูตรที่สอน ผู้สนใจจะได้รับการสอนทุกเรื่องเกี่ยวกับเล็บมือและเล็บเท้า เช่น การบำรุง อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ เทคนิคการแต่งเล็บ การจัดการร้าน การเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับลูกค้า
วิธีการบริการและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ระยะเวลาหนึ่งคอร์สสามารถจบภายใน 40ชั่ วโมงโดยสามารถขยายเวลาได้ถ้าคิดว่ายังไม่พร้อม
นอกจากนี้ทุกคนต้องเข้ารับการทดสอบภาคปฏิบัติคิดเป็น 70% ทฤษฎี 30% ก่อนที่จะผ่านการอบรมนักเรียนจะต้องทดลองให้บริการกับลูกค้าจริงจนแน่ใจว่าสามารถประกอบเป็นอาชีพได้
"ร้านทำเล็บถือว่าเป็นธุรกิจบริการเต็มตัวเราจึงไม่ได้สอนแค่การทำเล็บแต่สอนเทคนิคการบริการด้วย ความพิเศษคือเราจะมีการสอนเรื่องจรรยาบรรณ เช่น เรื่องของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
ปกติทั่วไปถ้าเราตัดเล็บลูกค้าผิดพลาดจนได้รับความบาดเจ็บจะไม่มีประกันค่าชดเชยให้แต่เราจะมีให้เป็นที่แรกในประเทศไทยเหมือนมาตราฐานสากลทั่วไป"
ถามถึงความแตกต่างของ เนลเฮาส์ อาคาเดมี่กั บร้านทำเล็บทั่วไป เขาบอกว่าถ้าไม่นับร้านทำเล็บทั่วไปราคาถูกที่เปิดตามตลาดนัด ธุรกิจนี้ถือว่ามีความเฉพาะทางสูงมีผู้ประกอบการที่มีความเป็นมืออาชีพจริงๆ
มีไม่มากนักทั้งของคนไทยและต่างชาติ ส่วนของเนลเฮาส์ อาคาเดมี่ จะจับกลุ่มลูกค้ารายได้ปานกลางถึงบน ค่าบริการอาจจะสูงขึ้นแต่รับรองได้ว่าจะได้รับบริการจากช่างที่มีความละเอียดในการทำงานเชิงลึกซึ่งไม่สามารถหาได้ทั่วไป
นอกจากเป็นสถาบันสอนและที่ปรึกษาครบวงจรแล้ว เนลเฮาส์ อาคาเดมี่ ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตกแต่งและรักษาเล็บให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Ezflow IBD Supernail NSI
รวมถึงจำหน่ายและรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงเล็บที่ผลิตขึ้นเองเช่น เจล อคริลิก สครับ โลชั่น ในอนาคตมีแผนจะเปิดร้านทำเล็บเพิ่มเติมในชื่อแบรนด์ตัวเองทำเลคาดว่าจะอยู่ในห้างสรรพสินค้ารวมถึงต่างจังหวัดเช่นเดียวกับขายแฟรนไชส์ให้กับผู้สนใจ
"แฟรนไชส์ของเราจะมีโซลูชั่นเกี่ยวกับเล็บให้ผู้ซื้อสิทธิทุกคนตั้งแต่อุปกรณ์ ทีมงาน ช่างทำเล็บ ระบบช่วยบริหารจัดการร้าน กำลังติดต่อกับสถาบันการเงินช่วยสนับสนุนทุนการเปิดกิจการในช่วงแรกให้ด้วย"
เอกพลให้คำแนะนำสำหรับผู้สนใจเปิดร้านทำเล็บขอให้มีใจรักในงานบริการเป็นอันดับแรกเพราะอาจจะต้องพบกับความไม่พอใจของลูกค้าได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังต้องมีความเป็นมืออาชีพในการบริหาร เรียนรู้เทคนิคในการให้บริการและกระแสของแฟชั่นทำเล็บอยู่ตลอดเวลา สไตล์การทำเล็บไม่ว่าที่ไหนอาจจะเหมือนๆกันหมดแต่สิ่งที่จะสร้างความแตกต่างได้ก็คือประสบการณ์ในการให้บริการซึ่งจะต้องค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ
ถามถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจนี้ เขายืนยันว่ามีอนาคตอีกมากเพราะว่าเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเมื่อเทียบกับธุรกิจความงามอื่น
ความเข้าใจของลูกค้าว่าบริการและราคามีความแตกต่างกันในเรื่องของคุณภาพสินค้าและความปราณีตก็เริ่มมีมากขึ้น กลุ่มที่น่าจะเป็นลูกค้าหลักอย่างวัยทำงาน แม่บ้านสามารถเลือกใช้บริการตามระดับรายได้รวมถึงกลุ่มวัยรุ่นก็มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นด้วย
"เป้าหมายไกลๆเราอยากจะไปทำธุรกิจที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว เวียดนาม กัมพูชา ตลาดมีอยู่และมีแนวโน้มเติบโตแต่ยังขาดแรงงานมีฝีมือเราคิดว่าจะเข้าไปเติมช่องว่างตรงนี้ได้ เรามั่นใจว่าเป็นมืออาชีพในทุกเรื่องของเล็บ" เขาตอบอย่างภูมิใจ
Key To Success
1. ผู้สนใจเปิดธุรกิจร้านทำเล็บ ต้องรู้จักทุกส่วนของการทำเล็บ ตั้งแต่อุปกรณ์ การบริการตลอดจนการให้คำแนะนำลูกค้า
2. สถานที่ตั้งควรจะเป็นแหล่งชุมชนที่มีผู้คนเดินผ่านประจำ
3. มีเงินทุนหมุนเวียนเริ่มต้นจำนวนหนึ่งเพื่อใช้ซื้ออุปกรณ์
4. เจ้าของต้องหมั่นติดตามเทรนด์หรือแฟชั่นการทาเล็บเป็นประจำ
5. ต้องมีใจรักงานในด้านบริการเพราะต้องรับมือกับความต้องการของลูกค้าทุกวัน
6. รู้จักที่จะสร้างความแตกต่างทางธุรกิจ
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ