ขาแว้นสะอื้น! ครม. ไฟเขียวเก็บภาษีจักรยานยนต์ใหม่ คาดจ่าย 200-1,500 บาทต่อคัน เริ่มปีหน้า
เว็บไซต์ thebangkokinsight รายงานว่า นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เผยที่ประชุม ครม.เห็นชอบการปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถจักรยานยนต์ใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยปรับรูปแบบจากการจัดเก็บภาษีตามความจุของกระบอกสูบ เป็นการจัดเก็บตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
สำหรับอัตราภาษีใหม่ มีรายละเอียดดังนี้
- รถจักรยานยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า จะคิดอัตราภาษีอยู่ที่ 1%
- รถจักรยานยนต์ทั้งแบบที่ใช้น้ำมัน และแบบไฮบริด ที่ใช้ได้ทั้งน้ำมันและใช้ไฟฟ้า แยกเป็น
- การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 10 กรัมต่อกิโลเมตร คิดภาษี 1%,
- ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 10 กรัมต่อกิโลเมตร แต่ไม่เกิน 50 กรัมต่อกิโลเมตร คิดภาษี 3%
- ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 50 กรัมต่อกิโลเมตรแต่ไม่เกิน 90 กรัมต่อกิโลเมตร คิดภาษี 5%
- ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 90 กรัมต่อกิโลเมตรแต่ไม่เกิน 130กรัมต่อกิโลเมตร คิดภาษี 9%
- ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 130 กรัมต่อกิโลเมตรคิดภาษี 18%
- รถจักรยานยนต์ต้นแบบที่ผลิต หรือนำเข้ามาเพื่อนำไปวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะ ที่ไม่เคยขายในท้องตลาดเป็นการทั่วไปในประเทศ และไม่เคยได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตมาก่อน หรือเคยได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิตมาแล้วแต่ได้เลิกการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะ จะไม่เสียภาษี
4.รถจักรยานยนต์อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ คิดอัตราภาษีที่ 20%
สำหรับขนาดรถจักรยานยนต์จะมีอัตราการเก็บภาษีดังนี้
- รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก หรือรถครอบครัว จะมีภาระภาษีเพิ่มขึ้นประมาณคันละ 200 บาท
- รถจักรยานยนต์ขนาดกลาง หรือรถครอบครัว กึ่งสปอร์ต และรถจักรยานยนต์ ประเภทอ๊อฟโรด มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นคันละ 1,500 บาท
- รถจักรยานยนต์ ประเภทอื่นๆ มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ทั้งนี้ จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น ประมาณปีละ 709 ล้านบาท