"สตาร์บัคส์" เปิดเกมรบ รุกกาแฟสดชงเองที่บ้าน

"สตาร์บัคส์" เปิดเกมรบ รุกกาแฟสดชงเองที่บ้าน

"สตาร์บัคส์" เปิดเกมรบ รุกกาแฟสดชงเองที่บ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตา เมื่อ "สตาร์บัคส์" เข้ามาแข่งขันในธุรกิจกาแฟคั่วบดและเครื่องชงกาแฟสดทำเองที่บ้าน

แบรนด์ "เวอริสโม" โดยชูกลยุทธ์ "ราคา" มาเป็นจุดขาย เพื่อชนกับคู่แข่งอย่าง "กรีนเมาน์เท่น" และ "เนสท์เล่" สองยักษ์ผู้นำในตลาดนี้แบบเต็ม ๆ

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ตลาดกาแฟคั่วบดสำเร็จรูปและเครื่องชงกาแฟมีมูลค่าถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดย "ราคาใหม่" ของเวอริสโมแบบเบสิก จะอยู่ที่ 199 เหรียญสหรัฐ

ในขณะที่รุ่นที่อัพเกรดขึ้นมาซึ่งสามารถควบคุมอุณหภูมิของน้ำและทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง ราคาจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 399 เหรียญสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มวางขายตามร้านค้าปลีกในช่วงตุลาคมที่จะถึงนี้

แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เริ่มวางขายในช่องทางออนไลน์ไปแล้ว


ปัจจุบันเครื่องชงกาแฟ Keurig จาก "กรีนเมาน์เท่น" มีสัดส่วนในตลาดอเมริกาถึง 3 ใน 4 ในขณะที่เนสท์เล่ที่มีเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ "เนสเพรสโซ่" (Nesspresso)

ครองสัดส่วนอยู่ที่ 35% ของตลาดทั่วโลก โดยมียุโรปเป็นตลาดหลัก หากเทียบราคากันแล้ว เครื่องชงกาแฟ Keurig ตัวใหม่ของกรีนเมาน์เท่นนั้น วางขายประมาณ 250 เหรียญสหรัฐ ขณะที่เครื่องชงเนสเพรสโซ่จะมีราคาระหว่าง 130-700 เหรียญสหรัฐ

ที่ผ่านมาเพื่อเข้าไปชิงส่วนแบ่งในตลาดกาแฟคั่วบดสำเร็จรูป "สตาร์บัคส์" ได้ร่วมกับกรีนเมาน์เท่น โดยผลิตกาแฟในรูปแบบ K-cup สำหรับใช้ในเครื่อง Keurig ของกรีนเมาน์เท่น ทำให้สามารถมีส่วนแบ่งตลาดในกาแฟ K-cup อยู่ที่ 15%

หุ้นในกรีนเมาน์เท่นร่วงลงเมื่อผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ของโลกมีแผนที่จะเปิดตัวเจ้าเครื่องเวอริสโมในเดือนมีนาคม และหุ้นของกรีนเมาน์เท่นได้หล่นลงมาอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน

เมื่อสตาร์บัคส์ออกมาประกาศราคาของเครื่องเวอริสโม โดยหุ้นลดลง 6.5% เหลือ 28.82 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่สตาร์บัคส์เพิ่มขึ้น 1.5% เป็น 50.85 เหรียญต่อหุ้น

นักวิเคราะห์กล่าวว่า เวอริสโมได้ถูกวางอยู่ในตำแหน่งที่จะต่อกรกับเนสท์เล่ ซึ่งทำให้หุ้นของเนสท์เล่ลดลง 0.1% ในการซื้อขายของยุโรป

"โฮเวิร์ด ชูลทส์" ซีอีโอของสตาร์บัคส์ กล่าวว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นหุ้นส่วนกับกรีนเมาน์เท่น และจะเดินหน้าเพื่อให้เวอริสโมเติบโตเคียงคู่กันไปในธุรกิจนี้ด้วย

ผู้บริหารสตาร์บัคส์ยังกล่าวอีกว่า จากการสำรวจในตลาด กรีนเมาน์เท่นและเนสท์เล่ทิ้งพื้นที่ว่างไว้อีกมาก

สำหรับสตาร์บัคส์จะเติบโตในฐานะผู้ทำเครื่องทำกาแฟของตัวเอง "75% ของลูกค้าสตาร์บัคส์ยังไม่มีเครื่องชงกาแฟเป็นของตัวเอง

อาจจะเป็นเพราะเครื่องชงกาแฟจาก 2 แบรนด์นั้นไม่ได้ตรงกับความคาดหวังของลูกค้าก็เป็นได้ เรามั่นใจว่าเครื่องชงกาแฟนี้จะสามารถสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้" ชูลทส์

 

 

Starbucks มีขายแบบเคลื่อนที่ด้วยเหรอ ???

Starbucks งานเข้า ลูกค้าบ่น ไม่อร่อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook