อาณาจักรปั๊มพีทีสุดอู้ฟู่ ใต้เงา พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นถึงเจ้าของสถานีบริการน้ำมันพีที (PT) ซึ่งฟันรายได้เมื่อปี 2561 มากถึงหลักแสนล้านบาท
ศึกแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาลผสมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใกล้ยุติลงแล้ว แม้ภายในพรรคการเมืองอาจจะยังไม่ลงตัวกันบ้างก็ตาม
>> เปิดโผ "ครม.ประยุทธ์ 2/1" จบศึกแย่งชิงเก้าอี้!
แต่ดูเหมือนพรรคที่จะนิ่งที่สุดก็คงจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ที่นำโดยหัวหน้าพรรคอย่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล น่าจะได้บุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ได้แก่
- รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โดยเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยอีก 4 ตำแหน่ง ต้องติดตามรายชื่อที่แน่นอนอีกครั้ง
ขณะที่รายชื่อรัฐมนตรีที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้เป็นสามีของนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งในแวดวงธุรกิจพลังงานนั้นส่วนใหญ่จะรู้จักนามสกุล “รัชกิจประการ” อย่างดี เพราะเป็นถึงเจ้าของปั๊มน้ำมัน PT อยากรู้หรือไม่ว่าที่ผ่านมาธุรกิจปั๊มน้ำมัน PT เป็นอย่างไร และทำรายได้เท่าไหร่ Sanook! Money จะพาไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน
ปั๊ม PT เดิมชื่อบริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2531 เริ่มต้นจากภาคใต้ของประเทศไทย จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อบริษัทฯ เป็น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เพื่อนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงานถึงรายละเอียดไว้ดังนี้
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2538 และถูกนำเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้งหมด 15 ราย โดยเราหยิบยกเพียง 5 อันดับแรกมารายงานไว้ดังนี้
- บริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 25.12%
- นายศักดิ์อนันต์ วิจิตรธนารักษ์ ถือหุ้น 8.16%
- นายพงษ์ศักดิ์ วชิรศักดิ์พานิช ถือหุ้น 6.01%
- นายจรัสลักษณ์ นิธยานุรักษ์ ถือหุ้น 4.66%
- บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 3.54%
ขณะที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ถือหุ้นเป็นอันดับที่ 9 ในสัดส่วน 2.37% ซึ่ง พีทีจีฯ ดำเนินธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้
- ปี 2559 รายได้ 64,926 ล้านบาท กำไร 1,073 ล้านบาท
- ปี 2560 รายได้ 84,904 ล้านบาท กำไร 913 ล้านบาท
- ปี 2561 รายได้ 108,142 ล้านบาท กำไร 624 ล้านบาท
นอกจาก พีทีจี เอ็นเนอยี จะดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสถานีบริการน้ำมัน คลังสินค้า ศูนย์จำหน่ายสินค้า รวมถึงพลังงานทดแทนอย่างน้ำมันปาล์มแล้ว ยังมีธุรกิจอย่างหนึ่งที่เติบโตและทำรายได้ให้กับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง นั่นคือธุรกิจด้านรีเทลหรือค้าปลีก ซึ่งเป็นธุรกิจฝั่ง Non-Oil เช่น
- ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ - Max Mart
- ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม กาแฟ - กาแฟพันธุ์ไทย, คอฟฟี่ เวิลด์ (Coffee World), ครีม แอนด์ ฟัดจ์ (Cream & Fudge), นิวยอร์ก ฟิฟทอเวนิว เดลี (New York 5th Deli), ไทย เชฟ เอ็กเพรส (Thai Chef Express), ร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร
