เปิดโผ 54 หุ้น เอี่ยว 12 ตระกูลร่วมรัฐบาลใหม่ พบ 12 ตัวบวกแรงหลังเลือกตั้ง
วันนี้ (24 มิ.ย.) สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย รายงานข่าวชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจในประเด็นความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันของนักการเมืองกับการลงทุนในตลาดหุ้น โดยระบุว่า ตลาดหุ้นกับการเมืองมักมีความสัมพันธ์กันเสมอ เนื่องจากนโยบายหรือโครงการลงทุนของรัฐบาลเป็นปัจจัยผลักดันสำคัญต่อภาคธุรกิจ จึงเป็นที่จับตามองว่า กลุ่มบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีการถือหุ้นโดยบุคคลที่อยู่ในฝั่งรัฐบาลอาจจะได้รับอานิสงส์ในด้านใดด้านหนึ่ง
ล่าสุดแม้ยังไม่มีการประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่อย่างเป็นทางการ แต่การวางตำแหน่งแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีเริ่มสะเด็ดน้ำและชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะกระทรวงสำคัญๆ ที่เริ่มเปิดเผยรายชื่อกันออกมาเกือบทั้งหมดแล้ว หากจะมีการเปลี่ยนแปลงก็แค่สลับตำแหน่งตามความเหมาะสมเท่านั้น
เมื่อสำรวจข้อมูลการถือหุ้นของว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากฝั่งรัฐบาล พบว่า มี 12 ตระกูลดังถือหุ้นใน บจ.ทั้งสิ้นถึง 54 บริษัท ประกอบด้วย
"โสภณพนิช" ถือหุ้น 22 บริษัทในตลาดหุ้น
ตระกูล "โสภณพนิช" เป็นกลุ่มที่ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนมากที่สุดถึง 22 บริษัท โดย "คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช" จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งโดยส่วนตัวถือหุ้น 1 บริษัทคือ บมจ.ยูเนี่ยนอุตสาหกรรมสิ่งทอ (UT) จำนวน 237,300 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.53% ขณะที่สามี "โชติ โสภณพนิช" ถือหุ้นใน บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) จำนวน 838,600 หุ้น สัดส่วน 0.79% และบุตรสาว "กิติยา โสภณพนิช" ถือหุ้นใน บมจ.กรุงเทพโสภณ (KWC) จำนวน 30,200 หุ้น สัดส่วน 0.5%
ส่วนคนอื่นๆ ในตระกูลนี้ถือหุ้น บจ.รวมทั้งสิ้น 22 บริษัท ดังนี้
หุ้นที่ถือโดยตระกูล “โสภณพนิช” |
|||
ถือโดย |
ชื่อย่อหุ้น |
จำนวน (ล้านหุ้น) |
สัดส่วน (%) |
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช |
UT |
0.24 |
0.53 |
โชติ โสภณพนิช |
BKI |
0.84 |
0.79 |
KWC |
0.09 |
1.56 |
|
กิติยา โสภณพนิช |
KWC |
0.03 |
0.5 |
สมาชิกอื่นๆ ในตระกูล |
BLA |
354.09 |
20.74 |
KWC |
1.16 |
19.35 |
|
BKI |
15.80 |
14.85 |
|
BH |
45.49 |
6.25 |
|
FMT |
2.74 |
5.71 |
|
TTTM |
0.32 |
5.38 |
|
DTC |
42.39 |
4.99 |
|
ASP |
96.50 |
4.58 |
|
ASK |
11.44 |
3.25 |
|
SMIT |
14.40 |
2.72 |
|
UT |
1.15 |
2.57 |
|
SITHAI |
38.00 |
1.4 |
|
CNS |
27.76 |
1.29 |
|
NC |
0.17 |
1.12 |
|
BBL |
17.28 |
0.91 |
|
SAUCE |
2.92 |
0.81 |
|
TRT |
2.19 |
0.71 |
|
CSR |
0.14 |
0.69 |
|
CTW |
2.73 |
0.69 |
|
CPI |
4.25 |
0.67 |
|
UVAN |
5.49 |
0.58 |
|
TCJ |
0.56 |
0.53 |
"จึงรุ่งเรืองกิจ" ขั้วพลังประชารัฐ ถือหุ้น 11 ตัว
ในขณะที่คนดังอย่าง "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" พลาดตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่อีกขั้วหนึ่งของตระกูลอย่าง "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" จากพรรคพลังประชารัฐ เตรียมนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ขณะเดียวกัน "พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ" จากพรรคพลังประชารัฐเช่นกัน ก็ได้เป็น ส.ส.ฝั่งรัฐบาลด้วย โดย 2 คนดังกล่าวไม่ปรากฏชื่อการถือหุ้นใน บจ. แต่มีคนในครอบครัวคือ "โกมล จึงรุงเรืองกิจ" พี่ชายของ "สุริยะ" และบิดาของ "พงศ์กวิน" ถือหุ้นอยู่ทั้งสิ้น 11 บริษัท ได้แก่
หุ้นที่ถือโดยตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ฝั่งพลังประชารัฐ |
|||
ถือโดย |
ชื่อย่อหุ้น |
จำนวน (ล้านหุ้น) |
สัดส่วน (%) |
โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ |
APURE |
347.15 |
36.23 |
IEC |
26,279.65 |
10.54 |
|
AIRA |
304.17 |
4.82 |
|
GRAMMY |
22.72 |
2.77 |
|
SSI |
864.13 |
2.69 |
|
CEN |
15.95 |
2.14 |
|
BWG |
71.57 |
1.87 |
|
U |
86.45 |
1.54 |
|
ICHI |
9.35 |
0.72 |
|
EFORL |
180.00 |
0.56 |
|
SAFARI |
12.00 |
0.54 |
ทั้งนี้ "พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ" เคยดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริง (IEC) หุ้นที่ปัจจุบันอยู่ในข่ายจะถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิกถอน เนื่องจากไม่ส่งงบการเงิน
"ทีปสุวรรณ" ถือหุ้น 5 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ด้านตระกูล "ทีปสุวรรณ" ซึ่ง "ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" จากพรรคพลังประชารัฐ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แม้ส่วนตัวจะไม่มีการถือหุ้นใดๆ แต่คนในตระกูลนี้ถือหุ้นอยู่ 5 บจ. ประกอบด้วย
หุ้นที่ถือโดยตระกูล “ทีปสุวรรณ” |
||
ชื่อย่อหุ้น |
จำนวน (ล้านหุ้น) |
สัดส่วน (%) |
BLAND |
422.93 |
10.82 |
TCMC |
50.24 |
6.58 |
TSTH |
460.21 |
5.46 |
TPIPL |
189.22 |
0.94 |
ZMICO |
11.50 |
0.7 |
"ไกรฤกษ์" ถือหุ้น 4 บจ.
ตระกูลนี้มี "จุติ ไกรฤกษ์" เป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แม้โดยส่วนตัวจะไม่มีข้อมูลการถือหุ้นใน บจ.ใดเลย แต่คนในตระกูล "ไกรฤกษ์" ถือหุ้น 4 บริษัท ประกอบด้วย
หุ้นที่ถือโดยตระกูล “ไกรฤกษ์” |
||
ชื่อย่อหุ้น |
จำนวน (ล้านหุ้น) |
สัดส่วน (%) |
MCS |
4.82 |
0.96 |
KWC |
0.05 |
0.86 |
UPF |
0.06 |
0.86 |
SORKON |
0.24 |
0.75 |
"ชาญวีรกูล" ถือหุ้น 3 บจ.
ฟากตระกูลดังอย่าง "ชาญวีรกูล" ที่ "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีการถือหุ้นอยู่ทั้งสิ้น 3 บริษัท โดย "อนุทิน" ถือหุ้น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) จำนวน 71.55 ล้านหุ้น สัดส่วน 4.69% และถือหุ้น บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI) อีก 164.59 ล้านหุ้น สัดส่วน 10.13% ขณะที่ภรรยา "ศศิธร ชาญวีรกูล" ถือหุ้น บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น (TWZ) สัดส่วน 2.94% ส่วนคนอื่นๆ ในตระกูลนี้ถือหุ้น STEC และ STPI อีก 1.67% และ 3.5% ตามลำดับ
หุ้นที่ถือโดยตระกูล “ชาญวีรกูล” |
|||
ถือโดย |
ชื่อย่อหุ้น |
จำนวน (ล้านหุ้น) |
สัดส่วน (%) |
อนุทิน ชาญวีรกูล |
STEC |
71.55 |
4.69 |
STPI |
164.59 |
10.13 |
|
ศศิธร ชาญวีรกูล |
TWZ |
251.37 |
2.94 |
สมาชิกอื่นๆ ในตระกูล |
STEC |
25.46 |
1.67 |
STPI |
56.91 |
3.5 |
"พรรณประเทศ-อิศรภักดี" ถือหุ้น 3 บจ.
กลุ่มนี้มี 2 ตระกูล โดยบ้าน "พรรณประเทศ" แม้ไม่มีรายชื่อเป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรี แต่เกี่ยวข้องกันโดยตรง เนื่องจาก "ล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ" เป็นสามีของ "ศุภมาส อิศรภักดี" ส.ส.คนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย และอดีตผู้บริหาร บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) โดย "ล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ" ถือหุ้น DOD สัดส่วน 36.69% และถือหุ้น SGP 1.71% ขณะที่ "เรณุมาศ อิศรภักดี" พี่สาวของ "ศุภมาส อิศรภักดี" เป็นผู้บริหารคนปัจจุบันและถือหุ้น DOD สัดส่วน 14.76% นอกจากนี้ "พชร พรรธนประเทศ" พี่ชายของ "ล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ" ถือหุ้น DOD สัดส่วน 7.73% และถือหุ้น บมจ.ไทรทัน โฮลดิ้ง (TRITN) อีก 0.92%
หุ้นที่ถือโดยตระกูล "พรรณประเทศ-อิศรภักดี" |
|||
ถือโดย |
ชื่อย่อหุ้น |
จำนวน (ล้านหุ้น) |
สัดส่วน (%) |
ล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ |
DOD |
150.45 |
36.69 |
SGP |
31.36 |
1.71 |
|
พชร พรรธนประเทศ |
DOD |
31.70 |
7.73 |
TRITN |
74.00 |
0.92 |
|
เรณุมาศ อิศรภักดี |
DOD |
60.50 |
14.76 |
"รัชกิจประการ" ถือหุ้น 3 บจ.
"รัชกิจประการ" อีกหนึ่งตระกูลจากพรรคภูมิใจไทย โดย "พิพัฒน์ รัชกิจประการ" เป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปัจจุบันถือหุ้น บมจ.อาม่า มารีน (AMA) สัดส่วน 7.5% และถือหุ้น บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) สัดส่วน 2.37% โดยเขาเป็นพี่ชายของ "พิทักษ์ รัชกิจประการ" ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร PTG ขณะที่คนอื่นๆ ในครอบครัวนี้ถือหุ้น AMA อีก 6.25%
หุ้นที่ถือโดยตระกูล “รัชกิจประการ” |
|||
ถือโดย |
ชื่อย่อหุ้น |
จำนวน (ล้านหุ้น) |
สัดส่วน (%) |
พิพัฒน์ รัชกิจประการ |
AMA |
38.86 |
7.5 |
PTG |
39.5 |
2.37 |
|
พิทักษ์ รัชกิจประการ |
PTG |
41.69 |
2.5 |
CHOTI |
0.23 |
3.12 |
|
สมาชิกอื่นในครอบครัว |
AMA |
32.3 |
6.25 |
"จาตุศรีพิทักษ์-ลิปตพัลลภ-ปุณณกันต์" ถือตระกูลละ 1 ตัว
กลุ่มสุดท้ายรวบมาจาก 3 ตระกูล เนื่องจากถือหุ้น บจ.เพียงตระกูลละ 1 บริษัท ประกอบด้วย "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ปัจจุบันถือหุ้น บมจ.พรอดดิจิ (PDG) สัดส่วน 0.89%
ขณะที่ "จรัสพิมพ์ ลิปตพัลลภ" มารดาของ "เทวัญ ลิปตพัลลภ" หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ที่มีข่าวได้เป็นว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ถือหุ้น บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) สัดส่วน 2.62%
ด้าน "เหลือพร ปุณณกันต์" บิดาของ "พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" จากพรรคพลังประชารัฐ ว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือหุ้น บมจ.สหกล อิควิปเมนท์ (SQ) สัดส่วน 1.23%
"ชมกลิ่น" จ่อนำหุ้นขายไอพีโอ
นอกจากนี้ ยังมีอีก 1 ตระกูลคือ "ชมกลิ่น" โดย "สุชาติ ชมกลิ่น" จากพรรคพลังประชารัฐ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.อรินสิริ แลนด์ (ARIN) ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับไฟลิ่งเพื่อเสนอขายหุ้นไอพีโอ หลังมีการเปลี่ยนผู้จัดการการจัดจำหน่าย โดยครอบครัวของ "สุชาติ ชมกลิ่น" ถือหุ้นใหญ่ใน ARIN สัดส่วนถึง 70%
หุ้น 12 บริษัท ราคาวิ่งเกิน 10% หลังเลือกตั้ง
ทั้งนี้ เมื่อสำรวจราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องตั้งแต่หลังเลือกตั้ง (25 มี.ค.-21 มิ.ย.) พบ 12 บจ.ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% และมีถึง 5 บริษัทราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% โดย PTG ที่ถือหุ้นโดยกลุ่ม "รัชกิจประการ" ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 85% รองลงมาคือ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) ที่ถือหุ้นโดย "โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ" ราคาเพิ่มขึ้น 53% นอกจากนี้ AMA ที่ถือโดยตระกูล "รัชกิจประการ" ก็เพิ่มขึ้นถึง 49% ส่วนบริษัทอื่นๆ ที่เหลือมีดังนี้
หุ้นเอี่ยวการเมืองพุ่งแรงหลังเลือกตั้ง |
|
ชื่อย่อหุ้น |
%เปลี่ยนแปลง (25 มี.ค.-21 มิ.ย. 62) |
PTG |
85 |
ICHI |
53 |
AMA |
49 |
GRAMMY |
24 |
STPI |
23 |
STEC |
17 |
MCS |
17 |
SQ |
12 |
ORI |
11 |
TRT |
10 |
DOD |
10 |
SGP |
10 |
นักวิเคราะห์เตือนระวังแรงเก็งกำไรกดราคาผันผวน
"กิจพณ ไพรไพศาลกิจ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ตลาดมีแรงเก็งกำไรเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มนี้ โดยเฉพาะช่วงที่มีความเคลื่อนไหว ความชัดเจน หรือประกาศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะนักลงทุนมีความเชื่อว่าหุ้นที่มีเครือข่ายหรือมีสัมพันธ์กับบุคคลฝ่ายที่ได้จัดตั้งรัฐบาลมักจะได้รับอานิสงส์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่กำลังจะออกมา
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มนี้มีความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคา เพราะมักจะอ่อนไหวต่อข่าวทั้งเชิงบวกและเชิงลบ โดยนักลงทุนต้องเลือกจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเป็นหลัก