ราคาทองคำวันนี้ ราคายังพุ่งต่อ นักลงทุน แห่ซื้อเก็บ

ราคาทองคำยังพุ่งต่อ นักลงทุน สถาบันต่างชาติ แห่ซื้อเก็บ

ราคาทองคำยังพุ่งต่อ นักลงทุน สถาบันต่างชาติ แห่ซื้อเก็บ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำในประเทศและต่างประเทศที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน มิ.ย.62 เนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัว ส่งผลให้นักลงทุนและสถาบันต่างชาติเข้ามาลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้น เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยสะท้อนจากกองทุนเปิดดัชนีที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (เอสพีดีอาร์) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกเข้ามาซื้อทองคำต่อเนื่องจนอยู่ที่ระดับ 801.96 ตัน และธนาคารกลางรัฐเซียก็ซื้อทองคำในระดับที่สูงเช่นกัน 

ทั้งนี้ ปัจจุบันราคาทองคำในตลาดโลกสามารถทำระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี โดยประเมินแนวโน้มราคาทองคำช่วงนี้ คาดว่าจะอยู่ที่แนวรับที่ 1,430 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านที่ 1,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำในประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เพราะค่าเงินบาทหลุด 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแล้ว เบื้องต้นหากค่าเงินบาทแข็งค่าที่ระดับ 30.50 บาท อาจทำให้ราคาทองคำในประเทศอยู่ในกรอบ 20,800-21,000 บาท

"สัญญาณทั่วโลกมองว่าเศรษฐกิจไม่ดี เพราะมีสาเหตุหลักมาจากนโยบายของสหรัฐที่กระทบต่อประเทศต่าง ๆ เช่นสงครามการค้า สหรัฐและจีนที่ยังตกลงกันไม่ได้ และล่าสุดที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกคำสั่งประธานาธิบดีประกาศคว่ำบาตรต่ออยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ที่ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินกับสหรัฐ ทำให้ตลาดคาดการณ์กว่าธนากลางสหรัฐ  (เฟด) จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ค.นี้ ส่งผลให้เกิดการเข้ามาลงทุนทองคำเพิ่มขึ้น"

รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า บรรยากาศร้านทองคำ ย่านเยาวราช ยังคงคึกคักตลอดทั้งวัน เนื่องจากประชาชนจำนวนมากเดินทางมายังร้านทองคำ เพื่อนำทองคำที่มีอยู่มาขายทำกำไร เพราะช่วงต้นปีที่ผ่านมาราคาทองคำในประเทศปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากนำราคาทองคำนวณตั้งแต่วันที่ 1-25 มิ.ย.62 พบว่าราคาทองคำในประเทศสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นรวม 1,250 บาท 

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน(ไอเอเอ) กล่าวว่า ปีนี้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยประมาณ 100,000 ล้านบาท หลังจากที่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีเงินเข้ามาแล้วกว่า 40,000-50,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักจากความชัดเจนด้านการจัดตั้งรัฐบาล และกรณีที่เฟดมีแนวโน้ม จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบาย ซึ่งเป็นสัญญาณให้ธนาคารกลางทั่วโลกมีทิศทางที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook