น้ำอัดลม ขึ้นราคาขวดละ 2-3 บาท เริ่ม 1 ส.ค.นี้ อ้างผลจากภาษีความหวาน

น้ำอัดลม ขึ้นราคาขวดละ 2-3 บาท เริ่ม 1 ส.ค.นี้ อ้างผลจากภาษีความหวาน

น้ำอัดลม ขึ้นราคาขวดละ 2-3 บาท เริ่ม 1 ส.ค.นี้ อ้างผลจากภาษีความหวาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ได้ประกาศแจ้งปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มน้ำอัดลม 2 ยี่ห้อดัง คือ “โค้ก”และ “เป๊ปซี่” สูตรมีน้ำตาลแบบดั้งเดิม เฉลี่ยขวดละ 2-3 บาท โดยให้เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากการปรับขึ้นภาษีความหวานของกรมสรรพสามิตรอบสองที่จะมีผลในวันที่ 1 ต.ค. 62 หลังจากประกาศขึ้นรอบแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 60

ทั้งนี้ การปรับราคาครั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีก “โค้กขวดแก้ว” ขนาด 185 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 5 บาท เป็น 7 บาท, ขนาด 1 ลิตร ปรับขึ้นจากเดิม 17 บาท เป็น 20 บาท ส่วนขนาด 280 มล.ขนาด 422 มล. ยังไม่ปรับขึ้นราคา

ขณะที่ “โค้กและเป๊ปซี่ขวดพลาสติกใส” ขนาด 330 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 10 บาท เป็น 12 บาท, ขนาด 450 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 12 บาท เป็น 15 บาท, ขนาด 590 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 15 บาท เป็น 17 บาท ยกเว้นขนาด 1.2 ลิตร ที่จำหน่ายอยู่ที่ราคา 30 บาทเท่าเดิม เช่นเดียวกับน้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาลก็ยังขายราคาเท่าเดิมทั้งขวดขนาด 330 มล. ขาย 10 บาท และขวดขนาด 450 มล. ขาย 12 บาท

นอกจากนี้ เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่เป็นน้ำสี อย่างเช่น “แฟนต้า-สไปรท์” บรรจุขวดพลาสติกใส ขนาด 330 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 10 บาท เป็น 12 บาท, ขนาด 450 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 12 บาท เป็น 15 บาท และน้ำมะนาวโซดา ขนาด 400 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 15 บาท เป็น 17 บาท

ส่วนแบรนด์ “มิรินด้า” และ “เอส” ทั้งน้ำดำและน้ำสีที่สำรวจจากร้านสะดวกซื้อยังไม่ปรับขึ้นราคา เพราะยังเป็นการขายจากสินค้าสต๊อกเดิม

ด้าน นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การปรับราคาขึ้นของเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมไม่ต้องขออนุมัติจากกรมการค้าภายใน เพียงแต่ผู้ประกอบการต้องแจ้งการปรับขึ้นราคาและเหตุผลมายังกรมให้รับทราบเท่านั้น เพราะสินค้าประเภทนี้ไม่ใช่สินค้าควบคุมแต่เป็นเพียงสินค้าที่อยู่ในบัญชีต้องติดตามเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook