สุดยอดพ่อครัวไทย เงินเดือน 200,000 ดังทั่วมาเก๊า
ด้วยความสามารถของคนไทยซึ่งเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน จึงมักเจอคนชาติเดียวกันทำงานอยู่ทั่วทุกมุมโลก
เช่นเดียวกับใน "มาเก๊า" ที่มีพ่อครัวมือฉมังชื่อว่า "เชฟทอม" หรือ นายณรงค์ศักดิ์ สำราณจิตต์ อายุ 37 ปี เอ็กเซ็กคูทีฟ ซูซ์ เชฟ ซึ่งทำหน้าที่บริหารร้านอาหารเกือบ 20 ร้าน
ด้วยเงินเดือนกว่า 2 แสนบาท ที่แซนด์ส โคไท เซ็นทรัล แหล่งรวมโรงแรมดัง 3 แห่ง ตั้งตระหง่านอยู่ใกล้กันบนพื้นที่ซึ่งพัฒนาขึ้นใหม่จากการถมทะเลอีก 6 ตารางกิโลเมตร หรือ "โคไท"
ได้แก่ คอนราด เชอราตัน และฮอลิเดย์ อินน์ โดย นายเชลดอน จี. อเดลสัน ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ลาส เวกัส แซนด์ส คอร์ป.
บอกว่า จุดเด่นของที่นี่คือการเป็นโรงแรมแบบบูรณาการ (Integrated Hotel) โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวโรงแรมเชอราตันอย่างเป็นทางการ
ทั้งยังเป็นการฉลองครบรอบ 75 ปี เชอราตัน และฉลอง 5 ปี แซนด์ส โคไท สทริปสำหรับ "เชฟทอม" เป็นเชฟโดยสายเลือด แม่เปิดร้านอาหารอยู่ในฮ่องกง พ่อเคยเป็นพ่อครัวที่สำนักพระราชวัง และพี่ชายเป็นเชฟอยู่ที่ร้านอาหารไทยในอังกฤษ
"ครอบครัวเราเป็นเชฟกันหมด ผมทำต้มยำกุ้งเป็นตั้งแต่อายุ 7 ขวบ แต่ไม่ได้เรียนจริงจังอาศัยครูพักลักจำมากกว่า เช่น ตอนไปเที่ยวต่างประเทศก็จะดูวิธีทำอาหารหรือขอให้คนท้องถิ่นสอน
อย่างตอนไปเที่ยวที่เวียดนามก็ขอเรียนกับคนที่นั่น ลองชิมและปรับปรุงรสชาติเอาเอง เพราะเชฟที่ดีต้องเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ รักการทำอาหาร ภูมิใจในอาชีพและตำแหน่งของตนเอง" เชฟทอมเริ่มเล่าชีวิตตัวเอง
หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวัย 19 ปี เขาก็เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นหนุ่มแบงก์ ทำงานอยู่ฝ่ายแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารแห่งหนึ่ง ก่อนจะย้ายไปทำงานด้านอิมพอร์ต-เอ็กซพอร์ต บริษัทของคนฮ่องกงในจังหวัดเชียงใหม่
จนเริ่มอยากแสวงหาการผจญภัยใหม่ๆ จึงคิดจะแบ๊กแพคเพื่อไปยุโรป แต่ตัดสินใจไปหาพี่ชายและพี่สะใภ้ซึ่งอาศัยอยู่ที่ฮ่องกงก่อน โดยไม่รู้เลยว่าโชคชะตาจะพาให้เขาไปทำร้านอาหารกับแม่อยู่ที่ฮ่องกงนานถึง17 ปี
"ช่วงแรกที่ไปฮ่องกง เพราะต้องการช่วยแม่ซึ่งเริ่มเปิดร้านอาหารใหม่ๆ คิดว่าจะอยู่แค่ไม่นาน แต่อยู่ไปอยู่มาก็เป็นเอ็กเซ็กคูทีฟ เชฟ ที่ฮ่องกง มาเกือบ 18 ปี จนเริ่มอิ่มตัวและอยากทำงานที่ท้าทายมากขึ้น จึงตัดสินใจมาลองสมัครงานที่แซนด์ส โคไท เซ็นทรัล และเริ่มต้นทำงานที่นี่เมื่อต้นปี 2555"
เมื่อได้งานใหม่อย่างที่ต้องการแล้ว เขาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการทำงานมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน
"การทำงานที่ใหญ่ขนาดนี้ย่อมแตกต่างจากที่ฮ่องกง สมัยก่อนคิดแต่เรื่องอาหาร คุณภาพและรสชาติ แต่ที่นี่ต้องคุมร้านอาหารเกือบ 20 ร้าน ผมต้องหัดบริหารงาน จัดสรรงบประมาณ สั่งให้ลูกน้องคิดเมนูใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเขา แล้วเราก็มีหน้าที่รับฟังและแนะนำว่าควรทำอย่างไรให้ดีที่สุด"
สำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จ เชฟทอมฝากถึงเคล็ดลับที่ทำให้มาถึงเป้าหมายว่า ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองและพิสูจน์ฝีมือให้คนอื่นยอมรับ
"ผมบอกกับตัวเองเสมอว่าทำงานมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ทำให้เราตายหรือป่วย เพียงแต่ต้องคอยดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง ความขยันกับการขวนขวายเป็นสิ่งที่ทำให้คนทุกชาติยอมรับ ไม่ควรตั้งค่าความสามารถของตัวเองต่ำ และที่สำคัญอย่าหยุดพัฒนาตนเอง" เชฟหนุ่มบอกด้วยแววตามุ่งมั่น
บทพิสูจน์หนึ่งของคนไทยที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหนหาก "ขยัน-ขวนขวาย" ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก