เต้ มงคลกิตติ์: ถอดสูตรการตลาด เปิดตัวแรงจนคนจำ เคลือบภาพลักษณ์นักตรวจสอบ

เต้ มงคลกิตติ์: ถอดสูตรการตลาด เปิดตัวแรงจนคนจำ เคลือบภาพลักษณ์นักตรวจสอบ

เต้ มงคลกิตติ์: ถอดสูตรการตลาด เปิดตัวแรงจนคนจำ เคลือบภาพลักษณ์นักตรวจสอบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเอ่ยถึง “เต้-มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ไม่มีใครไม่รู้จักเขาแน่นอน เพราะการเปิดตัวในช่วงหาเสียงที่ประกาศกร้าวว่าจะ “ตบปาก” คนที่ลดงบทหาร จนชาวเน็ตต้องตามสืบเสาะว่าเขาคนนี้เป็นใครและเหตุใดถึงมีฝีปากกล้ามากขนาดนี้

>> รู้จัก "มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์" ว่าที่ดาวสภาฝีปากกล้า ผู้ขันอาสาปราบทุจริต

แต่หลังจากที่เขาได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแล้ว จากฝีปากแรงกล้าที่เคยท้าชนนักการเมืองไปทั่ว กลับแหลมคมมากขึ้นด้วยตรรกะ และวิสัยทัศน์ที่โดดเด่นจนชาวเน็ตหลายคนสงสัยว่าเขาแอบไปเพิ่มสกิลมาจากที่ไหนหรือเปล่า? 

อยากรู้หรือไม่ เต้ มงคลกิตติ์ เขาใช้กลยุทธ์อะไรทำไมเขาถึงได้เปิดตัวเปรี๊ยงเดียว! ถึงได้ "ปัง" และแจ้งเกิดเป็นดาวสภาได้ขนาดนี้ Sanook! Money จะชวนทุกคนมาถอดรหัสวิชา "เต้ 007" โดยจะเปรียบเทียบกลยุทธ์ทางการตลาดที่คาดว่าเจ้าตัวจะใช้ไม้เด็ดนี้สร้างความฮือฮา ก่อนจะเป็นที่จดจำของทุกทั่วประเทศ

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Greedisgoods ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลด้านธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ และการลงทุน ได้อธิบายกลยุทธ์ AIDA ว่าเป็นหลักการหนึ่งที่เป็นพื้นฐานเกี่ยวกับการดึงความสนใจจากลูกค้าให้หันมาสนใจสินค้า รวมถึงซื้อสินค้าไปในท้ายที่สุด เป็นพื้นฐานที่นักขายและนักการตลาดทุกคนต้องรู้ ซึ่ง AIDA มาจากอักษรย่อของ 4 ตัว ได้แก่

  1. Attention คือ สร้างความสนใจ และกระตุ้นให้สนใจ
    • เป็นการกระตุ้นเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความสนใจในสินค้าด้วยวิธีต่างๆ เช่น ลงโฆษณาบน Youtube ทำให้ลูกค้าสนใจจนลูกค้าเลือกเข้ามาที่เว็บไซต์สินค้าของเรา หรือไปหาข้อมูลต่อ ในทางกลับกันหากเราไม่สามารถทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจได้ ลูกค้าก็จะเลือกกด Skip ข้ามโฆษณาไปแบบไม่ใยดี
  2. Interest คือ ความสนใจ
    • จูงใจลูกค้าให้อยู่กับเรา เมื่อสามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้า จนลูกค้าสนใจเราแล้วในขั้นนี้จะต้องชักจูงลูกค้าให้สนใจในสินค้าต่อไป เช่น การให้ข้อมูลว่าสินค้าดังกล่าวสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจมากขึ้น
  3. Desire คือ ความปรารถนา
    • ทำให้ลูกค้าที่กำลังสนใจสินค้าดังกล่าว เกิดความปรารถนาและอยากได้มากขึ้น (พูดง่ายๆ กระตุ้นอารมณ์ความอยากได้) เช่น เวลาเลือกซื้อนาฬิกา พนักงานมักจะเอ่ยชมว่าใส่นาฬิการุ่นไหนแล้วจะดูดีมีระดับ จนทำให้ลูกค้าเกิดอารมณ์ร่วมว่า “ถ้าเราใส่นาฬิกาเรือนนี้จะต้องดูดีมากขึ้น”
  4. Action คือ ทำให้ลูกค้าซื้อ
    • ทำให้ลูกค้าลงตัดสินใจซื้อ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดของการขาย เพราะถ้าขายไม่ได้ที่ทำมาทั้งหมดใน 3 ข้อข้างต้นจะเป็นเรื่องที่สูญเวลาเปล่าๆ โดยในขั้นตอนนี้สามารถทำได้หลายวิธีเพื่อโน้มน้าวใจลูกค้า เช่น การใช้โปรโมชั่น การตั้งคำถามจูงใจอย่างลูกค้าต้องการสินค้าสีอะไร หรือการใช้คำว่า “โทรหาเราตอนนี้” บนป้ายโฆษณา เป็นต้น

หากลองไล่เรียงลำดับตั้งแต่ เต้ มงคลกิตติ์ เข้าสู่สนามการเลือกตั้งปี 2562 และเปรียบเทียบกลยุทธ์ AIDA แล้วจะพบว่าสอดคล้องกันทุกขั้นตอน โดยมีรายละเอียดดังนี้

ช่วงเลือกตั้ง 2562 เต้ มงคลกิตติ์ สร้างความฮือฮาด้วยการโพสต์คลิปวิดีโอท้า “ตบปาก” นักการเมืองลดงบทหาร ซึ่งเป็นการกระตุ้นความสนใจ (Attention) จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์

เมื่อ เต้ มลคลกิตติ์ ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแล้ว แต่ก็ยังได้รับความสนใจจากคนทั่วไป รวมถึงคนในสถาบันเดียวกันด้วย หรือแม้กระทั่ง “วัน อยู่บำรุง” ที่โพสต์เฟซบุ๊กขอจองกระถินรับวันเปิดรัฐสภาเลยทีเดียว ซึ่งเป็นกระบวนการทำให้เกิดความสนใจ (Interest)

>> ศิษย์เก่าร่วมมหาวิทยาลัยยี้มงคลกิตติ์! ล่าชื่อถอดถอน หลังอวดใช้กำลังสมัยเรียน

>> "มงคลกิตติ์" ปะทะ "วัน อยู่บำรุง" แลกกันคนละหมัด ยังไม่ทันเปิดสภา

>> ช็อตเด็ด มงคลกิตติ์ ใจกล้าขอจับมือ วัน อยู่บำรุง เหวอถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

จนกระทั่ง เต้ มงคลกิตติ์ ฉายแววแก้ปัญหาระบบการศึกษาไทยโดยชูประเด็นทั้งหมด 16 ข้อ รวมถึงแผนการแก้ปัญหาแรงงานไทย อีกทั้งยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล โดยแฉข้าราชการยกก๊วนตีกอล์ฟเวลางานอีกด้วย ขั้นตอนนี้หากเทียบกับกลยุทธ์ทางการตลาดถือว่าเป็นกระบวนการสร้างความปรารถนา (Desire)

>> ฉายแวว รมว.ศึกษาฯ? "มงคลกิตติ์" ชู 16 ข้อแก้ระบบการศึกษาไทย ตามสไตล์ อ.เต้ 007

ที่สำคัญ ยังเป็นผู้ขอหย่าศึกของ “2 สาวดาวสภา” ระหว่าง เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ ช่อ- พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาถูกตราหน้าว่าเป็น “สายเสี้ยม” อยากเห็นผู้หญิงตบกันในสภาฯ จนชาวเน็ตหลายคนพากันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ เรียกว่า “พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ” แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าขั้นตอนนี้ เต้ มงคลกิตติ์ ดูดีขึ้นจริงๆ ซึ่ง

>> เสื่อมอีก! มงคลกิตติ์ ลั่นอยากเห็น "พรรณิการ์-ปารีณา" ตบกันในสภาฯ เชื่ออาจทำให้รักกัน

>> มงคลกิตติ์ ขอ “ช่อ-เอ๋” ลดทิฐิ ช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมือง

ล่าสุด เต้ มงคลกิตติ์ ประกาศขอถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมโพสต์ข้อความว่าจะนัดแถลงสื่อถึงเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าขอทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อไป หากเรื่องใดที่ส่งผลดีจะสนับสนุนแต่ถ้าเรื่องใดไม่เกิดประโยชน์ก็จะคอยทักท้วงและตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

>> 5 พรรคเล็ก อึดอัด "มงคลกิตต์" นำประกาศขอถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล

>> "มงคลกิตติ์" โพสต์ลั่น! นัดสื่อแถลงเป็นทางการ ขอโยกเป็น "ฝ่ายค้านอิสระ"

ซึ่งการประกาศตัวของ เต้ มงคลกิตติ์ ในครั้งนี้ถือว่าเป็นขั้นตอน “ซื้อ” หรือ Action เพราะนอกจากตัวเขาจะได้รับความสนใจและคำชมจากโลกออนไลน์-ออฟไลน์แล้ว เขายังเป็นบุคคลที่ “เนื้อหอม” ทั้งจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลอีกด้วย

แต่อย่าลืมนะว่า เต้ มงคลกิตติ์ เคยเป็นเลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) เปิดโปงการและต่อสู้การทุจริตคอร์รัปชั่นในวงการราชการ ผลงานที่โดดเด่นของเขาก็คือ "เงินแป๊ะเจี๊ยะ" จากการรับนักเรียนในโรงเรียนชื่อดังแบบไม่ชอบมาพากลจนกลายเป็นข่าวดังข้ามเวลาในช่วงนั้น ดังนั้น เรื่องการตรวจสอบของเขานั้นไม่ธรรมดาจริงๆ 

อย่างไรก็ตาม เต้ มลคลกิตติ์ เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นอยู่ดี เพียงแค่การแจ้งเกิดของเขาสามารถทำให้คนจำติดตาได้จนหลายคนต้องสืบหาประวัติอยู่เนืองๆ

เต้ มงคลกิตติ์ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจ ในการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จอีกรูปแบบหนึ่ง...

เอาล่ะ...ทีนี้เราก็เข้าใจหลักสูตรการตลาดสไตล์ "เต้ 007" กันแล้ว จากนี้ไปคงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของเขาว่าจะฉายแววอะไรให้สภาฯ และทุกคนต้องสะพรึงกันอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook