ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น19.28จุดจับตาเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 19.28 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 13,112.44 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 3.06 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 1,417.26 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 17.53 จุด หรือ 0.59% แตะที่ 2,999.66 จุด อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงด้วย นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นการชิงชัยกันระหว่างบารัค โอบามา ประธานาธิบดีคนปัจจุบันจากพรรคเดโมแครต และมิตต์ รอมนีย์ จากพรรครีพับลิกัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดัน หลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 54.2 ในเดือนต.ค. จากระดับ 55.1 ในเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 54.5 การปรับตัวลงของดัชนีภาคบริการสหรัฐเป็นผลมาจากยอดสั่งซื้อใหม่ที่ร่วงลง ซึ่งบดบังการจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้น โดยในเดือนที่แล้ว ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ร่วงแตะ 54.8 จาก 57.7 ขณะดัชนีการจ้างงานของ ISM พุ่งขึ้นแตะ 54.9 จากระดับ 51.1 ในเดือนก.ย. ทั้งนี้ ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 90% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ โดยครอบคลุมอุตสาหกรรมตั้งแต่สาธารณูปโภคและค้าปลีก ไปจนถึงการเคหะ บริการสุขภาพ และการเงิน ซึ่งแม้ว่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. แต่ตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก รายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดีนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ย.จะอยู่ที่ 380,000 ราย เพิ่มขึ้นจาก 363,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า