หุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดแกว่งตัวที่ 1,600-1,650 จุดพร้อมสั่งจับตาเฟด
เว็บไซต์ Thebangkokinsight รายงานว่า ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST มองแนวโน้มหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ (19-23 ส.ค. 62) ว่า ตลาดโดยรวมยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการชุมนุมที่ฮ่องกง เป็นผลให้การโยกย้ายสินทรัพย์เข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่ำจะยังดำเนินต่อไป แต่อาจมีบางวันที่ตลาดหุ้นดีดตัวกลับขึ้นมาได้เพราะปรับตัวลงไปมาก
สำหรับปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้คือ ทิศทางของผลตอบแทบพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหากปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น ส่วนประเด็นด้านการค้าสหรัฐกับจีนนั้น ต้องติดตามความคืบหน้าในเรื่องที่สหรัฐอนุญาตให้ บริษัท หัวเหว่ย สามารถซื้อสินค้าจากบริษัทของสหรัฐได้ รวมทั้งทิศทางของค่าเงินหยวนหากปรับตัวแข็งค่าขึ้นจะเป็นบวกต่อตลาด ขณะเดียวกันตลาดยังติดตามการหารือการค้ารอบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ประเด็นสำคัญที่ตลาดติดตามคือ เป็นรายงานผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 21 สิงหาคม 2562 และการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในงาน Jackson Hole Economic Policy Symposium ในวันที่ 23 สิงหาคม 2562
สำหรับปัจจัยในประเทศ ได้ผ่านช่วงรายงานผลกำไรของตลาด คาดว่านักวิเคราะห์อาจเริ่มปรับลดคำแนะนำลงทุนในหุ้นรายตัวลง โดยตลาดจับตาดูการรายงานตัวเลข จีดีพี ไตรมาส 2 ของไทย ที่รายงานวันจันทร์วันนี้ ตลาดคาดว่าจะออกมาอยู่ที่ 2.4% ลดลงจากไตรมาส 1 ซึ่งอยู่ที่ 2.8% และรายงานตัวเลขส่งออกล่าสุด ทั้งนี้ปัจจัยหนุนตลาด คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ตั้งไว้ในกว่า 3 แสนล้านบาท แม้ว่า 3 มาตรการที่ออกมาก่อนหน้าจะมีผลต่อตลาดไม่มากก็ตาม แต่โดยรวม KTBST มองว่า ตลาดกำลังมองหาข่าวดีที่จะเป็นแรงกระตุ้นตลาด จึงเห็นแรงซื้อเข้ามาในวันศุกร์และจะต่อเนื่องมาในสัปดาห์นี้
กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ ตลาดปรับตัวลงทำระดับไว้เพียงแค่ 1,590 จุด และดีดตัวกลับพร้อมกับตลาดทั่วโลก ถือจะเป็นปัจจัยบวกสั้นๆต่อตลาด เป้าหมายสูงสุดของสัปดาห์นี้คือ 1,650 จุด แต่อย่างไรก็ตามควรพร้อมปรับตัวตามข่าวบวก/ลบ รายวันที่อาจจะเข้ามา
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ KTBST แนะให้ถือเงินสด 20% เน้นเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ในหุ้นที่มีการเติบโตดี หรือราคาลงมามาก และหุ้นที่ได้ปัจจัยบวกจากการเติบโตของเศรษฐกิจ (Domestic Play) สำหรับหุ้นที่การเติบโตดีต่อเนื่องคือ SAWAD , MTC ขณะที่หุ้นราคาลงมามาก และเน้นเก็งกำไรคือ KBANK , PTTGC และกลุ่ม Domestic Play คือ BJC, COM7 และ AP ประเมินคาดกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,600-1,650 จุด