ซีพีเอ็น กอด “เซ็นทรัล วิลเลจ” เชิดใส่ ทอท. ย้ำทำถูกต้องตามกฎหมาย ลั่นมีไพ่เด็ดสู้คดี!
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ยืนยันโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ ได้รับการอนุมัติให้ก่อสร้างได้ถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน ทั้งการเชื่อมทางเข้าออกอย่างถูกต้อง ไม่มีการรุกล้ำที่ดินของรัฐ หรือ ที่ราชพัสดุ และลำรางสาธารณะ และไม่ได้เป็นที่ดินตาบอด ซึ่งโครงการอยู่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 แม้เคยเป็นที่ราชพัสดุแต่ได้มอบให้กับกรมทางหลวงสร้างและเป็นผู้ดูแล ซึ่งเป็นคนละพื้นที่คนละส่วนกับพื้นที่ดินเวนคืนของสนามบินสุวรรณภูมิที่ ทอท.ดูแล อีกทั้งทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ถือเป็นทางหลวงสาธารณะ ไม่ใช่ขององค์กรเอกชนใดที่จะมากล่าวอ้างเป็นเจ้าของได้
ซึ่ง ทอท. ก็ได้ขออนุญาตจากกรมทางหลวงในการใช้ประโยชน์ และที่ผ่านมาไม่เคยมีเอกชนที่จะใช้ประโยชน์รายใดยื่นขออนุญาตเชื่อมทางจากทาง ทอท. เลย อีกทั้งล่าสุดวันที่ 14 พ.ค. 62 ได้มีหนังสือจากรมทางหลวงอนุญาตให้ ทอท.เดินท่อร้อยสายไฟใต้ดินและบ่อพัก
รวมถึงบริษัทฯ ได้ขออนุญาตก่อสร้างในบริเวณพื้นที่เขตปลอดภัยในการเดินอากาศจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อย่างถูกต้อง ไม่ได้ละเมิดกฎใดๆ ทั้งด้านความสูง และไม่มีกิจกรรมที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานสนามบิน เป็นไปตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ไม่เกี่ยวกับการติดธงแดง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ปฎิบัติตามกฎหมายผังเมืองอย่างเคร่งครัด ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องในการก่อสร้างในพื้นที่สีเขียวไม่เกิน 10% ของที่ดินพื้นที่สีเขียวบริเวณดังกล่าว ได้รับรับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายผังเมือง และไม่เคยขอปรับผังเมืองแต่อย่างใด
“ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคุยกับ ทอท. เพราะโครงการอยู่นอกเขตพื้นที่ของ ทอท. และทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ และขออนุญาตจาก กพท. ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุม ทอท.อยู่แล้ว” นายปรีชา กล่าว
ส่วนประเด็นเรื่องการกลั่นแกล้งทางธุรกิจนั้น นายปรีชา มองว่าไม่อยากคาดเดาในประเด็นนี้เพราะไม่ได้แข่งกับใคร พร้อมยืนยันว่าเซ็นทรัล วิลเลจ จะเปิดให้บริการในวันที่ 31 ส.ค. 62
หากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครอง และให้ ทอท.รื้อย้ายแบริเออร์ที่ปิดทางเข้าออกก็สามารถเปิดได้ทัน แต่ถ้าศาลปกครองมีคำสั่งเป็นไปในอีกทางหนึ่งทางซีพีเอ็นก็มีอผนสำรองที่จะใช้ต่อสู้กันในชั้นศาลต่อไป แต่ขอไม่เปิดเผยในตอนนี้
ด้าน นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงประเด็นที่ระบุว่า กรณีที่ ทอท. ออกมาเคลื่อนไหว เพื่อยุติการดำเนินโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ เพื่อปกป้องอัตราเติบโตทางธุรกิจของคู่สัญญาสัมปทานที่จ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้ ทอท.หรือไม่
นายนิตินัย กล่าวว่า คนที่ตั้งคำถามดังกล่าว ควรหาทางออกตามข้อกฎหมายให้ ทอท.ด้วย เพราะ ทอท. ทำหน้าที่ตามกฎหมายในฐานะโอเปอเรเตอร์ ผู้บริหารจัดการท่าอากาศยาน ครอบคลุมเรื่องความปลอดภัย ต้องทำเรื่องดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายและความถูกต้อง ส่วนคนที่ตั้งคำถามว่า ทอท. ปกป้องผลประโยชน์ของใครนั้น ก็ขอให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน
ทั้งนี้ นายนิตินัย บอกว่า ที่ผ่านมาปัญหาการเข้าก่อสร้างโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ เกิดปัญหาขึ้นในอดีต เพราะพื้นที่ทั้งหมดเป็นของราชพัสดุ ต่อมากรมทางหลวง ได้ขอใช้ประโยชน์เพื่อตัดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370
หลังจากนั้น เอกชนมาขอเชื่อมต่อทางเข้าออก ซึ่งกรมทางหลวงอนุมัติให้ดำเนินการได้ ทั้งที่ข้อกฎหมายเมื่อมีการตัดทางแล้วเสร็จควรดำเนินการส่งพื้นที่คืนกรมธนารักษ์และให้เอกชนที่จะเข้าใช้พื้นที่กรมธนารักษ์ ขอพื้นที่เข้าออกโดยตรงจากธนารักษ์ ไม่ใช่เชื่อมต่อเอง
นอกจากนี้ ทอท. สอบถามไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแบบแปลนการก่อสร้างโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ ทอท. มีข้อสงสัยหลายประเด็น แต่ กพท. ได้ตอบเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยความสูงอาคารมาเท่านั้น โดย กพท.ยังไม่ได้ให้รายละเอียด ซึ่ง ทอท.จะขอส่งหนังสือให้ กพท.แจกแจงรายละเอียดอีกครั้ง รวมถึงประเด็นเรื่องการบุกรุกลำน้ำสาธารณะในพื้นที่ก่อสร้าง เรื่องนี้ ทอท.ได้ประสานกับ อบต.บางโฉลงเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ หากพบว่ามีการบุกรุก ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วน ทอท. ซึ่งเป็นผู้บริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเห็นว่าโครงการมีการกระทำที่ผิดกฎหมายก็จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ