ชิมช้อปใช้เฟส 2 เล็งนำคนไม่ใช้เงิน-ยืนยันตนไม่ผ่านเข้าถึงสิทธิ์ คลังเผยเฟสแรกเงินสะพัดช่วงหยุดยาว

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจ (สศค.) กล่าวว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการจัดเก็บข้อมูลในช่วงวันหยุดยาวออกพรรษา หลังพบนักท่องเที่ยวออกไปใช้จ่ายในโครงการชิมช้อปใช้จำนวนมาก ส่งผลให้ร้านอาหาร และร้านค้ารายย่อยในต่างจังหวัดมียอดขายกระเตื้องมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ร้านค้ารายย่อยทำยอดขายตั้งแต่ 5,000 – 10,000 บาทต่อวัน เช่น แหล่งท่องเที่ยวบริเวณอำเภอปากช่อง จังหวัดเพชรบูรณ์, เชียงใหม่ และเชียงราย เพราะบรรยากาศเย็นสบาย รายจ่ายเพื่อการท่องเที่ยวจากโครงการชิมช้อปใช้จึงเพิ่มขึ้นทำให้เงินเริ่มสะพัดออกสู่ต่างจังหวัด  

กระทรวงการคลังจึงต้องการประเมินข้อมูลการใช้จ่ายครั้งนี้ เพื่อนำไปดูแลผู้ไม่ได้ใช้สิทธิ์จ่ายเงินกระเป๋า 1 วงเงิน 1,000 บาทในช่วง 14 วันแรก และผู้ไม่สามารถยืนยันตัวตน เพื่อนำมาพิจารณา นำประชาชนกลุ่มนี้ เปิดทางให้ใช้สิทธิ์ในโครงการชิมช้อปใช้ในเฟส 2 อย่างไรบ้าง

หลังจากสรุปยอดการใช้จ่าย ณ 11 ต.ค.62 มียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 6,229 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 2 กระเป๋าดังนี้

1. ยอดใช้จ่ายกระเป๋า 1 จำนวน 6,163 ล้านบาท
2. ยอดใช้จ่ายจากกระเป๋า 2 จำนวน 8 ล้านบาท

โดยคาดว่ายอดเงินใช้จ่ายช่วงหยุดยาวจะเพิ่มสูงขึ้นมาก หลังจากนี้เมื่อประชาชนเติมเงินใส่ในกระเป๋า 2 มากขึ้น เงินจะสะพัดออกสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น พร้อมย้ำเตือนประชาชนใช้เงิน 1 พันบาทในกระเป๋า 1 เมื่อใช้สิทธิ์ครั้งแรกในจังหวัดลงทะเบียนไม่ตรงกับทะเบียนบ้านแล้ว สามารถใช้เงินได้ยาวถึงสิ้นเดือนพ.ย. ในจังหวัดลงทะเบียน จะไม่ถูกตัดสิทธิ์ในช่วง 14 วัน ส่วนกระเป๋า 2  เมื่อเติมเงินแล้ว ใช้สิทธิ์ได้สิทธิ์แล้วจะได้ส่วนลด 15% ของเงินใช้จ่าย

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวถึงความพึงพอใจที่ประชาชนตื่นตัวเรื่องการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงให้การตอบรับกับโครงการชิมช้อปใช้เป็นอย่างดี สังเกตได้จากปริมาณรถยนต์ในกรุงเทพฯ ที่ลดน้อยลงเป็นจำนวนมาก อีกทั้งได้รับรายงานจากจังหวัดท่องเที่ยวสำคัฯทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ว่านักท่องเที่ยวตระเวนหาร้านค้า วิสาหกิจชุมชนที่ร่วมโครงการชิมช้อปใช้ เพื่อที่จะใช้เงินผ่านกระเป๋า 1 (G-Wallet 1) และกระเป๋า 2 (G-Wallet 2) และมั่นใจว่าเม็ดเงินที่ประชาชนร่วมใช้จ่ายในช่วงวันหยุดยาวจะกระจายสู่เศรษฐกิจฐานรากเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง)

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการคุมเข้มห้ามร้านค้าปลีกรายใหญ่จัดทำคูปองเพื่อชำระค่าสินค้า เพื่อดึงดูดให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์ในโครงการชิมช้อปใช้ ใช้จ่ายเฉพาะจุดเดียวเท่านั้น ล่าสุดห้างเทสโก้ โลตัส ได้ออกประกาศยกเลิกออกตั๋วแลกเงิน เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐ และป้องกันความสับสนการจัดระบบชำระเงิน ซึ่งลูกค้าสามารถใช้สิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังตามนโยบายของรัฐได้เพียงช่องทางเดียว

ผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้

ในส่วนของผู้ประกอบการร้านค้าขนาดเล็กใน ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ร่วมโครงการชิมช้อปใช้ บอกว่า ช่วงวันหยุดยาวยอดขายสินค้าพุ่งสูงขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในแถบปากช่อง จึงแวะมาซื้อสินค้า เช่น ขนมทานเล่น และสินค้าบริโภคทั่วไป สำหรับร้านค้ารายย่อยบางรายที่ไม่ทราบข่าวการลงทะเบียน “ถุงเงิน” นับว่าเสียดายโอกาสเป็นอย่างมาก ส่วนตัวอยากให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการชิมช้อปใช้ต่อไป เพราะถือว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนได้จริง