"แพทองธาร ชินวัตร"ทายาทแสนล้าน วัย 26 ปี พร้อมแล้วแบ่งพอร์ทธุรกิจ ตระกูล"ชินวัตร"
"คุณพ่อบอกว่าอย่าไปกลัว ถ้าไม่รู้อะไรก็ให้ถาม วันนี้เราโง่ วันหน้าเราก็ฉลาดได้ แต่ต้องขยันถาม ขยันเรียนรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา ความสำเร็จจะต้องเป็นของเราสักวันหนึ่งค่ะ"
บทบาทใหม่ของทายาทธุรกิจแสนล้านตระกูลชินวัตร "อิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร" ในวัย 26 ปี ลูกสาวคนเล็กของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
วันนี้เธอพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรธุรกิจพัฒนาที่ดินที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ในชื่อ"เรนด์ ดีเวลอปเม้นท์"
"ประชาชาติธุรกิจ" ถ่ายทอดบทสัมภาษณ์พิเศษ "อิ๊ง-แพทองธาร" ในฐานะรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็น "น้องใหม่" ในวงการ ณ วันนี้ แต่อนาคตเชื่อได้ว่าจะเป็นบริษัทที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดอีกองค์กรหนึ่งทีเดียว
ก่อนอื่น "แพทองธาร" เริ่มต้นบทสนทนาด้วยการเปิดประเด็นเกี่ยวกับการแบ่งพอร์ตธุรกิจพัฒนาที่ดินของตระกูลชินวัตร เพราะมี "บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)"
ที่ตระกูลชินวัตรถือหุ้นใหญ่ และเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯคีย์แมนหลักคือ บริษัทมหาชนอย่างเอสซี แอสเสทฯ จะมี "ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" สามี "เอม-พินทองทา (ชินวัตร) คุณากรวงศ์" เป็นผู้บริหารหลัก โฟกัสการพัฒนาโครงการประเภทที่อยู่อาศัยได้แก่บ้านและคอนโดมิเนียม ขายแล้วโอนกรรมสิทธิ์หรือที่เรียกว่าขายขาด
"ส่วนเรนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นบริษัทที่พี่เอม (พินทองธา) และอิ๊ง แยกออกมาบริหารเอง ส่วนพี่พงศ์ (พี่เขย) มีตำแหน่งเป็นผู้บริหารงานในเอสซี แอสเสทฯ ก็จะแยกกันบริหารไม่เกี่ยวข้องกัน โดยเรนด์ฯจะลงทุนอสังหาฯเชิงพาณิชย์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศบิลดิ้ง สนามกอล์ฟ อีเวนต์ฮอลล์ บูติคโฮเต็ล ไปจนถึงโรงแรมลักเซอรี่ คอมมิวนิตี้มอลล์..."
พลิกกลับไปดูโปรไฟล์ "แพทองธาร" จบปริญญาตรีรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ดีกรีล่าสุดจบปริญญาโทด้านอินเตอร์เนชั่นแนล โฮเทลแมเนจเมนต์ จาก University of Surrey ประเทศอังกฤษ และเข้าทำงานในบริษัทเอสซี แอสเสทฯ โดยนั่งเป็นกรรมการบริษัท
เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่า บทบาทใหม่กับคำว่า "ดีเวลอปเปอร์" เป็นเรื่องใหม่มากจริง ๆ ถึงขนาดเริ่มต้นจากศูนย์กันทีเดียว
"เชื่อไหมคะ ตอนแรกแม้แต่คำว่าตารางเมตร ก็ยังไม่รู้เลยว่าหมายถึงอะไร คำนวณยังไง ธุรกิจอสังหาฯมีคำศัพท์เทคนิคเยอะมาก คำว่า อีไอเอ ก็งงแล้ว" คำให้สัมภาษณ์หน้ายิ้ม ๆ
บนเส้นทางการทำธุรกิจเริ่มต้นอย่างไร
"หลังจากเรียนจบมีโอกาสได้เรียนรู้งานจากอาปู(ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) สมัยที่คุณอายังไม่ได้เป็นนายกฯ ก็ได้คุณอาช่วยสอนอยู่ตลอด โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจอสังหาฯ"
เมื่อได้โรลโมเดลชื่อ "ยิ่งลักษณ์" ซึ่งก้าวเข้ามาบริหารเอสซี แอสเสทฯ เมื่อปี 2549 ยอดขายระดับพันล้านบาท ล่าสุดในปี 2555 เป็นบริษัทที่มียอดขายแตะหมื่นล้านบาท ปีหน้ากำลังจะมียอดรับรู้รายได้เกินหมื่นล้านบาท จึงถือว่าได้ครูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาทีเดียว
ถามถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่ทำให้ชีวิตหักเหอยากทำอสังหาฯ
"ใจชอบบริการ เวลามีโอกาสไปพักตามโรงแรม จะชอบไปเคาะ ๆ ผนัง เพดาน แล้วก็วิเคราะห์ว่าใช้วัสดุอะไร หนาบางเท่าไหร่ รู้สึกและสัมผัสได้ว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นอะไรที่มีเสน่ห์ เวลาไปใช้บริการแต่ละแห่งก็จะคอยสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ให้บริการยังไง จุดเด่นจุดขายแต่ละสถานที่เป็นอย่างไร รู้สึกสนุก และเริ่มจะอิน และอยากทำธุรกิจด้านนี้"
ทำเป็นแฟชั่นหรือเปล่า คำตอบแบบไม่อ้อมค้อม
"อิ๊งอาจจะโชคดีกว่าคนอื่นที่คุณพ่อคุณแม่มีทุนประเดิมที่ดีมาก ๆ ให้อยู่แล้ว แต่ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่น ก็มีเป้าหมายของตนเองว่า ถ้าได้ทำแล้วก็จะทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ทำแล้วเบื่อก็เลิก แต่จะต้องทำให้ถึงที่สุด เพราะถึงตอนนั้นอยากจะภูมิใจว่า นี่คือผลงานของเราจริง ๆ"
ความฝันเล็ก ๆ ของทายาทธุรกิจชินวัตร
"อยากทำคอมมิวนิตี้มอลล์ค่ะ..."
คำตอบแรกแบบไม่ต้องคิด เพราะติดค้างอยู่ในใจ เธอขยายผลรวมถึงอยากพัฒนาโครงการศูนย์การค้าด้วย เพราะนิสัยชีพจรลงเท้าทำให้เปิดหูเปิดตามาเยอะ ไม่นับรวมอุปนิสัยชอบเที่ยว ชอบแต่งตัวเป็นทุนเดิม
"ห้างที่ไปเดินบ่อย ๆ คือเทอร์มินัล 21 ชอบไอเดีย ชอบการตกแต่ง ถ้ามีโอกาสได้ทำก็อยากจะทำออกมาคล้าย ๆ แบบนี้ คือเป็นคนลงทุนสร้างตัวตึกพร้อมตกแต่งร้านค้า ผู้เช่าเพียงแค่นำสินค้ามาวางในร้าน แต่ละช็อปร้านค้าหน้าตาไม่ซ้ำกัน โดนใจค่ะ..."
กับคำถามที่ไม่ถามไม่ได้คือ คำพ่อสอน (คุณพ่อทักษิณ ชินวัตร) ในการทำธุรกิจคืออะไร
"คุณพ่อบอกว่าอย่าไปกลัว ถ้าไม่รู้อะไรก็ให้ถาม วันนี้เราโง่ วันหน้าเราก็ฉลาดได้ แต่ต้องขยันถาม ขยันเรียนรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา ความสำเร็จจะต้องเป็นของเราสักวันหนึ่งค่ะ" คำตอบสุดท้ายบนใบหน้าเปื้อนยิ้มของ "แพทองธาร"
เอม - อุ๊งอิ๊ง กับร้านทำเล็บไฮโซ The sisters nails
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ