5 สายการบินโลว์คอสต์โอด! ร้องคลังช่วยลดภาษีน้ำมัน หลังขาดทุนหนัก
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย ในฐานะตัวแทนสายการบินโลว์คอสต์ 5 แห่ง ได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์, ไทยไลอ้อนแอร์, ไทยเวียดเจ็ท และบางกอกแอร์เวย์ส เข้าพบนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) เพื่อยื่นหนังสือขอให้ทบทวนการเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน หลังรัฐบาลได้ปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินตั้งแต่เดือน ก.ย. 60 โดยจัดเก็บภาษีในอัตรา 4.726 บาทต่อลิตร
โดยนายธรรศพลฐ์ ยอมรับว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สายการบินโลว์คอสต์ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง รวมถึงภาคการท่องเที่ยวลดลง จากเดิมที่จะมีจำนวนผู้โดยสารเกือบเต็มเครื่อง 80-100% ต่อเที่ยวบิน ลดลงเหลือเพียง 70-80% ต่อเที่ยวบิน ส่งผลต่อการแบกรับภาระต้นทุนจากการสตอกน้ำมันของสายการบิน
นายชาญกฤช กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจการบินว่า จะเตรียมนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อพิจารณาหาข้อเสนอการขอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน เบื้องต้นได้มองไว้ 2 แนวทางคือ
แนวทางแรก ปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันสำหรับเครื่องบินไอพ่นให้มาอยู่ในระดับที่เหมาะสม
แนวทางที่สอง กำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันสำหรับเครื่องบินเป็นขั้นบันไดตามอัตราแลกเปลี่ยน เช่น หากค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 30-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จะจัดเก็บในอัตราหนึ่ง แต่ถ้าเคลื่อนไหวในระดับ 33-34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จะจัดเก็บในอีกอัตราหนึ่ง โดยกระทรวงการคลังจะนำข้อเสนอดังกล่าวมาพิจารณาก่อนที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป