แบงก์ยันรถคันแรกหนี้เสียจิ๊บๆ เงินเดือน 15,000 กู้ซื้อไม่ผ่าน

แบงก์ยันรถคันแรกหนี้เสียจิ๊บๆ เงินเดือน 15,000 กู้ซื้อไม่ผ่าน

แบงก์ยันรถคันแรกหนี้เสียจิ๊บๆ เงินเดือน 15,000 กู้ซื้อไม่ผ่าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แบงก์ประสานเสียงสินเชื่อรถคันแรกยังไม่น่าห่วง ธนชาตยันตรวจเข้ม จบใหม่เงินเดือนหมื่นห้ากู้ไม่ผ่าน ต้องมีครอบครัวช่วยค้ำ แต่เตรียมแผนยืดหนี้ให้กรณีเริ่มผ่อนค่างวดไม่ไหว



นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การขยายตัวสูงของสินเชื่อรายย่อย ส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของสินเชื่อส่วนบุคคล ส่วนสินเชื่อบ้านและสินเชื่อรถยนต์ไม่ได้ขยายตัวมากนัก จึงไม่น่าจะส่งผลให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จนส่งผลกระทบกับระบบการเงิน

"หนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ยอมรับว่ามีบ้าง แต่ไม่เยอะ หากเทียบกับหนี้เสียรวม เพราะการดูสินเชื่อรายย่อยไม่ได้ดูแต่เอ็นพีแอลเท่านั้น ยังมีสถิติอื่น เช่น การเริ่มค้างชำระ 1-2 เดือน ก็มีสถิติแล้ว

โดยเอ็นพีแอลของสินเชื่อรถยนต์แต่เดิมอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้เอ็นพีแอลก็ไม่ถึง 2% แม้ว่าจะมียอดการจำหน่ายรถยนต์เพิ่มมากขึ้น" นางสาลินีกล่าว

นางสาลินีกล่าวว่า จากการหารือร่วมกันระหว่าง ธปท.กับสมาคมธนาคารไทยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. ได้สอบถามถึงนโยบายรถยนต์คันแรก

ซึ่งบริหารธนาคารพาณิชย์ยืนยันว่ายังไม่เห็นสัญญาณหนี้เอ็นพีแอลจากนโยบายนี้ รวมถึงธนาคารพาณิชย์มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในการให้สินเชื่ออยู่

นายอนุชาติ ดีประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีความกังวลเรื่องการทิ้งรถจากกลุ่มผู้ซื้อรถยนต์ตามโครงการรถคันแรกเนื่องจากผ่อนค่างวดไม่ไหวว่า

สำหรับธนาคารยังไม่มีความกังวล เนื่องจากมีการวิเคราะห์สินเชื่อที่เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่เริ่มทำงานและซื้อรถเพื่อเข้าโครงการ ซึ่งจะต้องวิเคราะห์ว่าความสามารถในการผ่อนชำระเพียงพอหรือไม่

ซึ่งหากเริ่มทำงานไม่นาน มีรายได้ 1.5 หมื่นบาทต่อเดือนแต่ต้องผ่อนค่างวดอยู่ที่ 8 พันบาทต่อเดือนก็คงไม่อนุมัติสินเชื่อ แต่หากสามารถตรวจสอบระบบสกอริ่งพบว่าครอบครัวมีฐานะดี ก็สามารถอนุมัติได้เช่นกัน

"คงต้องรอให้จบปีนี้ก่อนจึงจะประเมินสินเชื่อรถคันแรกได้ แต่เบื้องต้นคาดว่า ประมาณ 30% ของสินเชื่อใหม่ น่าจะเป็นรถคันแรก โดยยังเชื่อว่าลูกค้าจากโครงการรถคันแรกไม่ได้ก่อให้เกิดหนี้เสียในจำนวนมาก" นายอนุชาติกล่าว

นายอนุชาติกล่าวว่า ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารได้มีการเสนอทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงกับลูกค้าที่ขอสินเชื่อเป็นการทำประกันสินเชื่อที่คุ้มครองลูกค้าคล้ายกับประกันสินเชื่อบ้าน แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากลูกค้าที่กู้ในกลุ่มรถคันแรกมากนัก

อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้เตรียมแผนสำรองไว้รองรับ ซึ่งอาจจะมีโครงการที่จะยืดหนี้ให้ ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถผ่อนสินเชื่อได้ โดยเป็นแผนที่เตรียมไว้รองรับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในปีหน้าด้วย

นายอิสระ วงศ์รุ่ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการคุมความเสี่ยงมี 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การวิเคราะห์สินเชื่อ โดยเข้มงวดให้ใช้เงินดาวน์สูงกว่า 20% ซึ่งอาจทำให้ได้ดอกเบี้ยต่ำลง

แต่ลูกค้ามีคุณภาพจริงๆ 2.กระบวนการติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้เอ็นพีแอลของบริษัทต่ำเพียง 0.8% จากตลาดรวมเอ็นพีแอลอยู่ที่ 1.8%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook