“ดร.วิน” แนะ Gen Y บริหารการเงินอย่างไร ให้ไม่มีหนี้ และมีเงินเก็บ

“ดร.วิน” แนะ Gen Y บริหารการเงินอย่างไร ให้ไม่มีหนี้ และมีเงินเก็บ

“ดร.วิน” แนะ Gen Y บริหารการเงินอย่างไร ให้ไม่มีหนี้ และมีเงินเก็บ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลากหลายสำนักการวิจัย ได้มีบทวิเคราะห์ออกมาให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของ Gen Y หรือผู้ที่มีอายุอยู่ในช่วง 23-38 ปี ณ ปัจจุบัน ว่ามีหนี้เสียกว่า 7% ของจำนวนประชากร Gen Y นั่นเป็นประเด็นที่เราต้องเอามาคุยกันวันนี้ ว่า Gen Y ใช้เงินเก่ง ขยันเป็นหนี้ และมีปัญหาผิดนัดชำระจริงหรือไม่ ? และทำอย่างไรให้หลุดพ้นจากสภาวะดังกล่าว โดยที่เรามี “ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST มานั่งคุยกันในวันนี้ครับ 

คิดอย่างไรกับพฤติกรรมของ Gen Y ในยุคปัจจุบัน  

“ดร.วิน” – จริง ๆ Gen Y ในปัจจุบันเป็น Gen ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นคนรุ่นที่พ่อแม่ ผ่านความยากลำบากและสร้างเนื้อสร้างตัวมาในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้คน Gen Y มีโอกาสมากกว่า ที่จะเลือกทำสิ่งที่อยากทำหรือทำตามความฝันตัวเอง เพราะพื้นฐานครอบครัวมีความมั่นคงมาให้ในระดับหนึ่งแล้ว พอเข้าถึงวัยที่มีความสามารถในการเป็นหนี้ จึงสามารถที่จะเป็นหนี้ได้อย่างสบายใจ โดยต้นเหตุของการเป็นหนี้ ก็เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับตนเอง เพราะว่าเป็นช่วงวัยที่ยังไม่ต้องรับภาระการดูแลทางบ้าน พ่อแม่ยังอยู่ในช่วงที่สามารถดูแลตนเองได้ และคนสมัยใหม่มีลูกช้าขึ้น หนี้ของ Gen Y ส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการเพิ่มความสะดวกสบาย สร้างประสบการณ์ชีวิต และสร้างความสุขผ่านประสบการณ์ เพราะเหมือนกับเป็นช่วงปลอดภาระทางโครงสร้างครอบครัว 

ซึ่งถามว่าผิดไหม ไม่ผิดครับ คนแต่ละช่วงวัยมีพฤติกรรมการใช้เงินที่แตกต่างกันไปตามสภาพทางสังคมที่เปลี่ยนไป ความสุขของคนแต่ละ Gen จึงออกจะแตกต่างกันซักหน่อย

“หนี้” ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมี ใช่หรือไม่ 

“ดร.วิน” - คนส่วนใหญ่จะมองว่าหนี้คือภาระ แต่อันที่จริงแล้ว ถ้าเรามองดี ๆ หนี้บางชนิด สามารถสร้างความก้าวหน้าให้ชีวิตเราได้ด้วย “ของมันต้องมี” วลีฮิตๆ ที่คนพูดกันในยุคนี้ บางทีมันก็ต้องมีจริง ๆ ครับ         เราสามารถยกตัวอย่างได้ง่าย ๆ อย่างเช่น ถ้าคุณคิดว่ามือถือคือสิ่งสิ้นเปลือง ใช่ครับ มันสิ้นเปลือง                 ในขณะเดียวกันคนทั้งองค์กรส่งงานประสานงานกันอย่างรวดเร็วผ่านมือถือ Application ต่าง ๆ ทำให้การทำงานง่ายขึ้น บางคนสามารถใช้มือถือหารายได้เสริมได้อีกมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้นคือการฉลาดเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง การเป็นหนี้ไม่ได้ผิด แต่การเป็นหนี้โดยไม่ก่อประโยชน์ คือเรื่องที่ต้องคิดย้ำอีกหลาย ๆ ที ก่อนตัดสินใจเป็นหนี้ ในสถานการณ์ปัจจุบัน 

อะไรทำให้อัตราการเติบโตของหนี้ ของ Gen Y ต่างจาก Gen อื่นๆ 

“ดร.วิน” - สภาพสังคม โอกาส และความสามารถในการเข้าถึง ระหว่าง Gen Y, Gen X หรือ Baby Boomer แตกต่างกันคือ สมัยก่อนอาก๋ง อากู๋เรา การเข้าถึงการเป็นหนี้นั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยาก           ไม่เหมือนยุคนี้ คือคุณทำงานที่แรก มีเงินเดือน 15,000 บาท คุณก็สามารถเป็นหนี้ได้แล้ว นั่นทำให้คน Gen Y   มีความสามารถในการเป็นหนี้มากยิ่งขึ้น เมื่อเป็นหนี้ง่ายก็สามารถซื้อทรัพย์สินชิ้นใหญ่ ๆ ได้ง่าย ผ่านเงื่อนไขทางไฟแนนซ์ต่าง ๆ ลักษณะการใช้เงินจึงเปลี่ยนไปจาก Gen X หรือ Baby Boomer ที่ต้องเก็บเงินกันครึ่งค่อนชีวิตเพื่อจะมีทรัพย์สินอย่างบ้านหรือรถยนต์ ในขณะเดียวกันปัจจุบัน Gen Y สามารถสตาร์ทมีทรัพย์สินดังกล่าวได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ  เพราะการเข้าถึงการเป็นหนี้ที่ง่ายขึ้นนั่นเองครับ จึงทำให้อัตราการเป็นหนี้ ของ Gen Y   ดูเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างที่เห็นตามผลวิจัย 

Gen Y จะใช้ชีวิตอย่างไร ให้มีความสุขเหมือนเดิม แต่มั่นคงมากขึ้น 

“ดร.วิน” - ก็ต้องวางแผนการเงิน ให้เหมาะสมกับ Lifestyle เพราะว่าเอาจริง ๆ การออกท่องเที่ยวไม่ได้ผิด การเปลี่ยนงานบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องผิด แต่สิ่งที่เราต้องเพิ่มคือ เราต้องรู้ว่า เราท่องเที่ยวบ่อย เรามีความสุขจากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ การมีเงินเก็บเท่าไหร่ อย่างไร จึงจะเพียงพอต่อรูปแบบความสุขของเรา ถ้าบอกว่ามีความสุข ชีวิตแฮปปี้มาก อยากเที่ยวได้เที่ยว อยากกินได้กิน มีประสบการณ์มากมาย แต่ใช้เงินเดือนชนเดือน นั่นคือผิด ในยุคปัจจุบัน เรามีงานและอาชีพเสริมมากมาย รวมไปถึงการลงทุนหลากหลายรูปแบบที่สนับสนุน Lifestyle ดังกล่าว การเก็บออม การลงทุน มีทางเลือกหลากหลายพอ ๆ กับช่องทางการเป็นหนี้ เพิ่มศักยภาพตนเอง ให้เป็นคนที่สามารถหาเงินได้จากหลายช่องทาง และมีความสุขไปกับ  Lifestyle ในแบบของคุณ 

(Advertorial)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook