ปิดฉาก!ไทยแลนด์อีโคคาร์ยอดจองเกิน2เท่า

ปิดฉาก!ไทยแลนด์อีโคคาร์ยอดจองเกิน2เท่า

ปิดฉาก!ไทยแลนด์อีโคคาร์ยอดจองเกิน2เท่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
มหกรรมงานแสดงรถยนต์ ไทยแลนด์ "อีโคคาร์ แอนด์ เฟิร์สคาร์ โชว์ 2012 ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่" ด้วยยอดจองที่ล้นหลามเกินเป้าที่ตั้งไว้กว่า 2 เท่าตัว ทำตัวเลขได้รวม 1,705 คัน เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้แค่ 700 คัน สามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 800 ล้านบาทในงาน รวมถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องที่มีเงินหมุนเวียนอีกกว่า 2 ล้านบาทงาน ไทยแลนด์ อีโคคาร์ แอนด์ เฟิร์สคาร์ โชว์ 2012 ที่ห้างสรรพสินค้าเมกาบางนา ปิดฉากลงเรียบร้อยไปแล้ว โดยมีการจัดงานรวมทั้งสิ้น 10 วัน เพื่อเป็นโค้งสุดท้ายเพื่อให้ผู้ที่พลาดการใช้สิทธิ์ซื้อรถยนต์คันแรกในช่วงที่ผ่านๆ มาตามนโยบายของรัฐบาลได้ใช้สิทธิ์กันอย่างเต็มที่ ก่อนที่นโยบายดังกล่าวจะสิ้นสุดลงวันที่ 31 ธ.ค. 2555 นี้ การจัดงานได้ใช้พื้นที่บริเวณชั้น 1 ลานแฟชั่น แกเลอเรีย ภายในห้างสรรพสินค้าเมกาบางนา พร้อมเปิดบูธรถยนต์หลากหลายของ 7 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ชื่อดัง ประกอบด้วย โตโยต้า, ฮอนด้า, ซูซูกิ, นิสสัน, เชฟโรเลต, มิตซูบิชิ และ เกีย หลากหลายรุ่น มาแสดงพร้อมด้วยโปรโมชั่นที่แต่ละค่าย ยังคงงัดแคมเปญเด็ดออกมาส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่กันอย่างเต็มที่นอกจากนี้ ในงานยังมีบูธสำหรับอุปกรณ์ประดับยนต์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มด้านการดูแลรถยนต์, ยางรถยนต์, ฟิล์มจากหลากหลายบริษัท ทั้ง ฟิล์มฮิวเปอร์ ออฟติค, แม็กม่า, คาร์ชายน์, ซีคเคอร์, ยางดันลอป, พลัส 1 และฟิล์มวีคูล ยังพร้อมใจจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษมาให้ผู้ที่เดินท่องเที่ยวในห้างสรรพสินค้าเมกาฯ ได้เลือกจำนวนมาก ขณะที่บริเวณพื้นที่กลางลานได้จัดเป็นเวทีพร้อมเตรียมที่นั่งสำหรับการทำกิจกรรม ทั้งการพูดคุยกับ กูรูด้านยานยนต์ และการแสดงมินิคอนเสิร์ต ตลอดจนกิจกรรมจับสลากแจกโชคแก่ผู้ร่วมงานทุกวัน บรรยากาศของการจัดงานทั้ง 10 วันที่ผ่านมา มีผู้สนใจที่ตั้งใจจะมาจองรถยนต์ในงานนี้โดยเฉพาะ ต่างแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมในบูธของแต่ละบูธอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แต่ละคนดูรายละเอียดและเปรียบเทียบข้อมูลของรถยนต์จากหลายๆ ค่าย รวมถึงโปรโมชั่น และระยะเวลาในการรับรถ โดยรวมตัวเลขทั้งหมดรวม 10 วันของการจัดงาน ยอดจองของทุกบูธได้ตัวเลขรวมกันอย่างไม่เป็นทางการแล้วที่ 1,705 คัน โดยมี ค่ายฮอนด้า นำมาอันดับ 1 ที่มีพระเอกอย่าง ซิตี้, บริโอ้ และ อเมซ ได้ยอดจองที่ 564 คัน อันดับ 2 ค่ายนิสสัน ที่มีทั้ง มาร์ช และ อัลเมรา ได้ตัวเลขที่ 391 คัน อันดับ 3 โตโยต้า 240 คัน มาจากทั้ง วีออส ใหม่ปี 2013 ยาริส และวีโก้ นอกจากนั้น ค่ายมิตซูบิซิ, เชฟโรเลต, ซูซูกิ และเกีย ต่างมียอดจองกันต่อเนื่องเช่นกัน รวมทั้งยอดขายอุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ ที่มีผู้สนใจเป็นจำนวนมากเช่นกัน ด้าน คุณจตุพร ขันมณี ประธานจัดงานร่วมเปิดเผยว่า ''การจัดงานในครั้งนี้ มียอดขายอยู่กว่า 1,705 คัน โดยรวมตอนแรกที่เราตั้งเป้าไว้แค่ประมาณ 700 คันและคาดการณ์ว่า จบงานจะอยู่ที่ 1,000 คัน เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากครับ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดพื้นที่การจัดงานกับยอดการจองรถที่เกิดขึ้นในงานนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด เชื่อว่างานครั้งนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเม็ดเงินให้กับบริษัทรถยนต์ได้เป็นอย่างดี ขอฝากขอบคุณคนที่ติดตามรถยนต์ขนาดเล็กอย่าง อีโคคาร์ มาตลอด เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนสนใจมากขนาดนี้นั้น ก็คงมาจากนโยบายรถคันแรกของ รัฐบาลด้วย สำหรับในปีหน้าจะมีการจัดงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 มหกรรมแสดงรถยนต์ ประจำภูมิภาคครั้งแรกของประเทศไทย จะเป็นงานที่รวมรถยนต์ รถกระบะ และจักรยานยนต์รุ่นใหม่ จากค่ายรถเอเชีย และยุโรป กำหนดจัด 5 ภาค 7 จังหวัด และในฐานะประธานร่วมการจัดงานคณะผู้จัดงานจะมุ่งมั่นสรรหาสิ่งดีๆ มาจัดมาโชว์ให้ได้ติดตามอยู่เรื่อยๆ แน่นอนครับผม''คุณวิลักษณ์ โหลทอง ประธานจัดงานร่วมเปิดเผยว่า "ถือว่าประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของงานที่จัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งท้ายโครงการคืนภาษีสรรพสามิต รถคันแรกของภาครัฐ โดยให้ผู้บริโภคอีกจำนวนมาก ที่ต้องการจะซื้อรถใหม่ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจได้มาชมตัวจริง พร้อมพบโปรโมชั่นพิเศษมากมายในงาน จริงๆ แล้วเราวางเป้ายอดจองทั้งหมด เมื่อสิ้นสุดงานนี้แค่ 700 คัน แต่เมื่อจบงานในวันสุดท้าย เราสามารถได้ยอดจองรถยนต์ 1,705 คัน หรือมีเงินหมุนเวียนภายในงานที่ประมาณ 800 ล้านบาท ที่ยังไม่นับรวมอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องที่มาออกบูธที่รวมกันแล้วอีกกว่า 2 ล้านบาท ก็ต้องขอขอบคุณหลายๆ ฝ่าย ที่ทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีครับ"โดยงาน ไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 มหกรรมแสดงรถยนต์ประจำภูมิภาค ครั้งแรก และเป็นงานเดียวในประเทศไทย ที่รวบรวมรถยนต์ รถกระบะ และจักรยานยนต์รุ่นใหม่ จากค่ายรถเอเชียและยุโรป โดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนด้านพื้นที่จัดงานในทั้ง 5 ภาค 7 จังหวัด จะเริ่มขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2556 โดยมีกำหนดดังนี้ วันที่ 8 - 17 ก.พ. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาจังหวัดขอนแก่น, วันที่ 19 - 28 เม.ย. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี, วันที่ 8 - 12 พ.ค. ลานกีฬาในร่ม การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดชลบุรี, วันที่ 9 - 18 ส.ค. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา จังหวัดอุดรธานี,วันที่ 7 - 17 ก.ย. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร, วันที่ 18 - 27 ต.ค. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซา จังหวัดเชียงใหม่ และวันที่ 13 - 22 ธ.ค. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา หาดใหญ่ โดยจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมงานฟรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง 02-508-8173   
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook