จับจังหวะซื้อขายทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2020

เว็บไซต์วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยถึงสถิติ 5 ปี ย้อนหลังชี้ให้เห็นว่าทองคำให้ผลตอบแทนมาสุดเดือนมกราคม

เทศกาลตรุษจีน หรือ Chinese New Year จะมีขึ้นอีกเพียงไม่กี่วันนับจากนี้ โดยในปี 2020 ช่วง Golden Week จะตรงกับวันที่ 24 – 30 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวจีน และตลาดหุ้นจีนจะปิดทำการด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น เราคงพออนุมานได้ว่า แรงซื้อทองคำจากฝั่งจีนอาจลดลง เพราะจีนได้ชื่อว่าเป็นประเทศบริโภคทองคำรายใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก

ดังนั้น YLG อยากนำเสนอสถิติราคาทองคำช่วงชาวจีนหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีนย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2015 – 2019)

จากข้อมูลสถิติราคาทองคำ 5 ปีย้อนหลัง (2015-2019) พบว่า ราคาทองคำช่วงหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน ปรับตัวลง 3 ปี ใน 5 ปี โดยช่วง 2 ปีล่าสุด (2018 และ 2019) ราคาทองคำปรับตัวลดลงทั้ง 2 ปีติดต่อกัน ซึ่งค่อนข้างอิงกับข้อสมมติฐานที่กล่าวไว้ข้างต้น ที่คาดว่าจีนจะเร่งซื้อทองคำก่อนถึงช่วงเทศกาล เพื่อเป็นของขวัญ แต่หลังจากนั้นแรงซื้อจะลดลงเมื่อเทศกาลมาถึง

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกสถิติที่น่าสนใจ กล่าวคือ “เดือนมกราคม” จะเป็นเดือนที่ทองคำให้ผลตอบแทนดีที่สุด ดังนี้

เดือนมกราคม เป็นเดือนที่ทองคำให้ผลตอบแทนดีที่สุด เมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆของปี จากข้อมูลพบว่า 5 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา ราคาทองคำในเดือนมกราคม สามารถปรับตัวขึ้นได้ 5% โดยประมาณ โดยในแต่ละปี ปรับตัวขึ้นมากน้อยต่างกันดังนี้

• ราคาทองคำเดือนม.ค. ปี 2015 ปรับตัวขึ้น +8.40%
• ราคาทองคำเดือนม.ค. ปี 2016 ปรับตัวขึ้น +5.37%
• ราคาทองคำเดือนม.ค. ปี 2017 ปรับตัวขึ้น +5.11%
• ราคาทองคำเดือนม.ค. ปี 2018 ปรับตัวขึ้น +3.22%
• ราคาทองคำเดือนม.ค. ปี 2019 ปรับตัวขึ้น +2.98%

ดังนั้นหาก “History Repeat Itself” การปรับตัวลงของราคาทองคำในช่วงจีนหยุดยาว ยังถือเป็นโอกาสหนึ่งในการเข้าซื้อทองคำ เพื่อรอทำกำไรจากราคาทองคำที่มีแนวโน้มดีดตัวขึ้น

หากนับจากราคาเปิดปี 2020 จนถึงปัจจุบัน (Year to date) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาแล้ว 2.38% (จากราคาเปิดปีบริเวณ 1,517.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนถึงปัจจุบัน ณ วันที่ 17 ม.ค. เวลา 10.02 น.ตามเวลาไทย อยู่ที่บริเวณ 1,553.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ถือว่าราคาทองคำยังมี upside อยู่อีกพอสมควร

หากลองตั้งสมมติฐานว่า ราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นขึ้นได้ 5% ในเดือนม.ค. ดังนั้นราคาเป้าหมายปิดตลาดเดือนนี้ น่าจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1,594 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Upside ราวๆ 40 เหรียญ จากระดับราคาปัจจุบันซึ่งอยู่ที่บริเวณ 1,555 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

แต่แน่นอนว่า “Past performance is no guarantee of future results” นักลงทุนจึงควรเพิ่มความระมัดระวัง รวมถึงติดตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและปัจจัยพื้นฐานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด