ไวรัสโคโรนาพ่นพิษ ฉุดหุ้นไทยดิ่ง 40 จุด ท่องเที่ยว-ขนส่งแดงยกแผง
ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,523.78 จุด ลดลง 45.77 จุด (-2.92%) มูลค่าการซื้อขาย 41,864.96 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,548.11 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,521.77 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงมากกว่าที่คาด และมากกว่าตลาดอื่นในภูมิภาคเอเชีย อย่างตลาดหุ้นญี่ปุ่นติดลบแค่ 1.8% ขณะที่หลายตลาดในภูมิภาคปิดทำการ รับผลจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศจีน และยังวิตกในเรื่องร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่อาจล่าช้าด้วย
อย่างไรก็ดียังต้องติดตามสถานการณ์โรคระบาด และติดตามดูศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาอย่างไรในกรณี ส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนแทนกันในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 รวมถึงยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไปด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเงียบเหงาหลังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุน ทำให้ตลาดฯยังคงติดลบต่อไป โดยมีแนวรับ 1,520 และ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
- AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,803.19 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,307.86 ล้านบาท ปิดที่ 43.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
- BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,293.67 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,482.08 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 5.50 บาท
- ACE มูลค่าการซื้อขาย 1,393.44 ล้านบาท ปิดที่ 3.00 บาท ลดลง 0.20 บาท
ข่าวไวรัสจีนกระทบธุรกิจบางกลุ่ม เชื่อไม่ถึงขั้นใช้ "เซอร์กิต เบรกเกอร์"
นายภากร ปีตธวัชชัย ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยอมรับว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีนกระทบโดยตรงต่อกลุ่มธุรกิจขนส่งและท่องเที่ยว แต่สำหรับภาพรวมธุรกิจอื่นๆ ยังต้องติดตามผลกระทบรอบด้านให้ชัดเจนก่อน ซึ่งเบื้องต้นมองว่ามีทั้งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเชิงลบและเชิงบวก ขณะที่บางธุรกิจอาจไม่ได้รับผลด้านใดเลย
อย่างไรก็ตาม ตลท.ยืนยันว่ามาตรการที่มีอยู่คือ เซอร์กิต เบรกเกอร์ หากตลาดหุ้นร่วงแรงไปถึง 10% สามารถรับมือกับความร้อนแรงของการซื้อขายในตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี แต่ก็เชื่อว่าในวันนี้คงไม่ถึงขั้นที่จะต้องนำมาใช้ โดยการซื้อขายในช่วงเช้าตลาดหุ้นไทยปรับลงไปราว 2.92%
