จุฬาฯติงนายจ้างอย่ากลัวล้มละลายหลังขึ้น300บ.

รองศาสตราจารย์ แล ดิลกวิทยรัตน์ ศาสตราภิชาน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ประเด็นของการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันนั้น อยู่ที่การปรับขึ้นแล้ว แรงงานจะพอกิน พอใช้หรือไม่ โดยที่ไม่ต้องทำโอที  เพื่อที่จะมีเวลาเหลือได้อยู่กับครอบครัว ญาติ พี่ น้อง ซึ่งที่ผ่านมานายจ้าง ไม่เคยบ่นเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ที่มีการปรับขึ้น รวมถึงค่า โสหุ้ย  ซึ่งบางที่นายจ้างกลัวว่าจะล้มละลาย หากขึ้นค่าจ้าง  แต่ไม่ได้มองว่าลูกจ้าง หรือ แรงงาน ที่ทำผลกำไรให้กับนายจ้างนั้น จะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร มีเวลาอยู่กับครอบครัวหรือไม่ "คุณไม่เคยโวยเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ขึ้นค่าโสหุ้ยต่าง ๆ ขึ้น แต่พอลูกจ้างจะขยับปาก ขยับท้องขึ้นมาหน่อย คุณก็บอกขึ้นไม่ได้นะ เพราะถ้าขึ้นฉันอยู่ไม่ได้ แต่เราไม่เคยถามว่า ไม่ขึ้น เขาอยู่ไม่ได้มานานเท่าไรแล้ว"ทั้งนี้ รองศาสตราจารย์ แล มองว่า การปรับขึ้นค่าจ้างนั้น เป็นแรงผลักดันให้นายจ้างต้องเร่งปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อให้แรงงานมีเครื่องมี เครื่องจักรที่ทันสมัย เพื่อที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงานจะดีกว่า