ไวรัสโคโรนา พ่นพิษทำยอดนักท่องเที่ยวจีนมาไทยปีนี้ลดฮวบราว 2 ล้านคน

ไวรัสโคโรนา พ่นพิษทำยอดนักท่องเที่ยวจีนมาไทยปีนี้ลดฮวบราว 2 ล้านคน

ไวรัสโคโรนา พ่นพิษทำยอดนักท่องเที่ยวจีนมาไทยปีนี้ลดฮวบราว 2 ล้านคน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2563 ลดลงราว 2 ล้านคน เหลือ 9 ล้านคน จาก 11 ล้านคนในปีก่อน ทั้งนี้ ททท.เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อบรรเทาผลกระทบไวรัสอู่ฮั่นเข้าครม.เศรษฐกิจในวันศุกร์นี้ (31 ม.ค.)  

801600นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

อย่างไรก็ตาม ททท.ตั้งเป้ายอดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยปีนี้ 40.78 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.5% สร้างรายได้ 2.03 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%

อย่างไรก็ดี ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะลดลงไปนั้น เป็นการประเมินในเบื้องต้นร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งข้อมูลที่แท้จริงคงต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลาหรือความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวทำได้รวดเร็วเพียงใด เพราะหากทำได้รวดเร็ว ผลกระทบหรือความเสียหายก็จะลดน้อยลงกว่าที่คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ดี ในปี 63 ททท.ยังคงเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในไทยที่ 40.78 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.5% สร้างรายได้ราว 2.03 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5% ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวไทยเองนั้น คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 172 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3% คิดเป็นรายได้ด้านการท่องเที่ยวราว 1.13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5%

ดังนั้น เมื่อรวมนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติแล้ว คาดว่าจะสร้างรายได้ในปี 63 เป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3.16 ล้านล้านบาท

ในขณะที่ปี 62 มีรายได้รวมจากการท่องเที่ยวทั้งสิ้น 3.01 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 39.79 ล้านคน และนักท่องเที่ยวไทย อยู่ที่ 166 ล้านคน-ครั้ง

ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า สิ่งที่จะต้องดำเนินการเร่งด่วนในระยะ 2-3 เดือน (ก.พ.-เม.ย.63) เพื่อทดแทนตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะหายไปราว 2 ล้านคนในปีนี้ คือ การหาตลาดทดแทนในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย ลาว เมียนมา กัมพูชา ตลาดเอเชีย เช่น อินเดีย เกาหลี และญี่ปุ่น ตลาดยุโรป เช่น รัสเซีย ยูเครน และประเทศอื่นๆ ในยุโรปตะวันออก และตลาดสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

โดยมาตรการที่จะนำมาใช้ชื่อการเพิ่มความถี่ในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และเพิ่มจำนวนวันที่เข้าพักในประเทศไทยให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน มาตรการที่จำเป็นต้องทำควบคู่กันไป คือ กระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศให้มากขึ้น ส่งเสริมให้ส่วนราชการตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดการอบรมสัมมนาในประเทศให้มากขึ้น

อย่างไรก็ดี สำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้แม้ว่าจะได้มีการจองทัวร์ ตลอดจนที่พักไว้ล่วงหน้าแล้วนั้น ททท.ได้ประสานกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเลื่อนวันเดินทาง และวันเข้าพักในโรงแรมได้ โดยไม่ต้องเสียค่าปรับหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติ

นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับทุกฝ่ายถึงการตระหนักและให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนานั้น ในวันที่ 31 ม.ค.นี้ จะจัดให้เป็น Big Cleaning Day พร้อมกันทั้งในส่วนของสนามบิน สายการบิน โรงแรม บริษัททัวร์ ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหมด เพื่อให้เห็นว่ามีการป้องกันอย่างเข้มข้นและจริงจัง ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้มากขึ้น

ผู้ว่าการ ททท. กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันที่ (31 ม.ค.) ททท.จะเสนอมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาในช่วงนี้ เช่น ขอลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันให้กับสายการบิน, ขอให้รัฐบาลจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว, การปรับลดค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินทั้ง Parking Fee และ Landing Fee สำหรับไฟล์ทที่เป็นตลาดทดแทนตลาดจีน เป็นต้น พร้อมกันนี้ ในเบื้องต้นจะมีการเสนอมาตรการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังด้วย เช่น การอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการเข้าเมือง, การบริหารจัดการทัวร์อย่างมีคุณภาพ และการส่งเสริมชาร์เตอร์ไฟล์ท เป็นต้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook