′สหพัฒน์′-′ยูนิลีเวอร์′ยันไม่ขึ้นราคา ฟุ้งค่าแรงเรื่องจิ๊บๆจ่ายเกิน 300 แล้ว

เครือสหพัฒน์ระบุไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า ฟุ้งค่าแรง 300 บาทแค่จิ๊บๆ เพราะปกติก็จ่ายแพงกว่าอยู่แล้ว ชี้ปัจจัยที่จะส่งผลต่อราคาสินค้าคือราคาน้ำมัน ด้านยูนิลิเวอร์คุยโวตลาดสินค้าอุปโภค-บริโภคยังโตโดดเด่น เผยผลประกอบการปีที่แล้วโตสุดรอบ 10 ปี

 

นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า โดยหลักแล้วค่าแรงมีผลกับต้นทุนของการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคน้อยมาก

เพราะส่วนใหญ่ผลิตโดยเครื่องจักรเป็นหลัก ใช้แรงงานน้อย อีกทั้งค่าแรงที่จ่ายในปัจจุบันส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจ่ายเกิน 300 บาทอยู่แล้ว ส่วนปัจจัยหลักที่มีผลโดยตรงกับเรื่องต้นทุนในการผลิตสินค้าคือเรื่องราคาน้ำมัน

เพราะเกี่ยวข้องในเรื่องต้นทุนขนส่ง และการปรับเพิ่มของวัตถุดิบในการผลิตสินค้าบางรายการ เช่น ปิโตรเคมี ส่วนผสมหลักในการผลิตผงซักฟอก แต่จากการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกในขณะนี้พบว่ามีแนวโน้มทรงตัวไปถึงปลายปี

จึงเป็นเหตุให้ราคาวัตถุดิบในการผลิตสินค้าปรับหรือต้นทุนค่าขนส่งปรับเพิ่มขึ้น ดังนั้น ในระยะนี้จึงไม่เห็นว่าสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภคจะขอปรับราคาเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีการปรับราคาในบางรายการไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน ผลจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เช่น ผงซักฟอก

"ค่าแรง 300 บาท ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคาที่ผ่านมานั้น มีผลกับผู้ผลิตในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคน้อยเพราะส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักรเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานน้อย แต่หากเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเป็นหลัก เช่น เครื่องนุ่งห่ม กลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก" นายบุญฤทธิ์กล่าว

นายบุญฤทธิ์กล่าวว่า ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจ เพราะเป็นของกินของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ดีหรือไม่

มีแนวโน้มถดถอยจึงจะยังเห็นตลาดนี้มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยปีละ 5-7% แต่หากเป็นสินค้าในกลุ่มฟุ่มเฟือยจะมีความอ่อนไหวต่อภาวะการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจยอดขายจะปรับลดลงหากเศรษฐกิจมีแนวโน้มถดถอยลง

รายงานข่าวจากบริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของไทย อาทิ ผงซักฟอกบรีส, ยาสีฟันใกล้ชิด, ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมซันซิล เป็นต้น เปิดเผยว่า ค่าแรงไม่มีผลกับเรื่องต้นทุนของยูนิลีเวอร์เช่นกัน

เพราะจ่ายผลตอบแทนในระดับที่เกิน 300 บาท และไม่มีนโยบายในการปรับเพิ่มราคาสินค้าในระยะนี้ อย่างไรก็ตาม ในปี 2555 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ผลประกอบการของยูนิลีเวอร์ในเมืองไทยเติบโตได้อย่างโดดเด่น มียอดขายรวม 40,000 ล้านบาท เติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปี