ผ่ารายได้สายการบินนกสกู๊ต หลังประกาศลดไซส์ "นักบิน-ลูกเรือ" 47 คน ปัดเซ่นพิษโควิด-19
จากกรณีที่มีกระแสข่าวสายการบินโลคอร์สนกแอร์ และสายการบินนกสกู๊ต ประกาศเลิกจ้างนักบินและลูกเรือไปนั้น สาเหตุมาจากเศรษฐกิจรวมถึงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19)
ล่าสุด สายการบินนกสกู๊ตชี้แจงกรณีดังกล่าวว่าจากการประเมินทางธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 สายการบินนกสกู๊ตตัดสินใจปรับลดขนาดธุรกิจในปี 2563 ซึ่งการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ประการใด
ขณะเดียวกันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่การปรับลดขนาดธุรกิจครั้งนี้ ยังรวมไปถึงการเลิกจ้างพนักงาน 47 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นักบิน 11 ตำแหน่ง และพนักงานต้อนรับบนเครี่องบิน 36 ตำแหน่ง ซึ่งได้ดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นไปตามกรอบของกฎหมายแรงงาน
นอกจากนี้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์สายการบินนกสกู๊ตเตอร์ แจ้งเพิ่มเติมว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในวงกว้าง โดยเฉพาะธุรกิจการบริการและธุรกิจการบิน สายการบินนกสกู๊ตได้ใช้มาตรการระยะสั้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์นี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีในเร็ววัน
สำหรับสายการบินนกสกู๊ตเป็นสายการบินโลว์คอส โดยมีตระกูล "จุฬางกูร" เข้าไปถือหุ้นในบริษัทฯ ด้วย Sanook Money ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า สายการบินดังกล่าวแม้ว่ารายได้ในช่วงที่ผ่านมาจะเพิ่มขึ้นตามอานิสงส์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย แต่ก็ขาดทุนต่อเนื่องติดต่อกัน
จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2556 โดยมีรายชื่อคณะกรรมการดังนี้
- นายอึง ชิน วี
- นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร
- นายลี ลิค ซิน
- นายปิยะ ยอดมณี
- นายวิสูตร กาญจนปัญญาพงศ์
- นายชวลิต อัตถศาสตร์
ดำเนินธุรกิจ ขนส่งผู้โดยสารทางอากาศที่มีตารางเวลา ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 2,960 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้
- ปี 2559 รายได้ 3,910 ล้านบาท ขาดทุน 612 ล้านบาท
- ปี 2560 รายได้ 5,650 ล้านบาท ขาดทุน 47 ล้านบาท
- ปี 2561 รายได้ 5,920 ล้านบาท ขาดทุน 1,528 ล้านบาท