โต้เดือด! ชิมช้อปใช้ ไม่เอื้อตระกูลใครทั้งนั้น งัดโชว์เม็ดเงินกระจายเมืองรอง 17,000 ล้านบาท

โต้เดือด! ชิมช้อปใช้ ไม่เอื้อตระกูลใครทั้งนั้น งัดโชว์เม็ดเงินกระจายเมืองรอง 17,000 ล้านบาท

โต้เดือด! ชิมช้อปใช้ ไม่เอื้อตระกูลใครทั้งนั้น งัดโชว์เม็ดเงินกระจายเมืองรอง 17,000 ล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน โดยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ระบุว่า เศรษฐกิจไม่ดีความเหลื่อมล้ำสูงเงิน "ชิมช้อปใช้" ไหลเข้าตระกูลใหญ่ ซึ่งงบประมาณ "ชิมช้อปใช้" ประมาณ 20,000 ล้านบาท สามารถนำไปใช้ในมาตรการ 30 บาท รักษาทุกโรคซื้อเตียงผู้ป่วยได้จำนวนมากนั้น

ล่าสุด นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) ยืนยันว่า โครงการ "ชิมช้อปใช้" เป็นมาตรการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระบบโดยตรงและรวดเร็ว ซึ่งมีความจำเป็นในช่วงที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำ และถือว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง

1291904นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง)

โดยข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ตั้งแต่ 27 ก.ย. 62-31 ม.ค. 63 พบว่ามีประชาชนเข้าร่วมโครงการกว่า 14 ล้านคน มียอดใช้จ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังกว่า 29,000 ล้านบาท โดยเติมเงินผ่านกระเป๋า 2 (G-Wallet 2) สูงถึง 60% ที่สำคัญมีเม็ดเงินกระจายสู่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยสูงถึง 92% โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้

  • การใช้จ่ายผ่านร้านชิม 4,758.7 ล้านบาท
  • การใช้จ่ายผ่านร้านช้อป 20,212 ล้านบาท
  • การใช้จ่ายผ่านร้านใช้ 464.3 ล้านบาท
  • การใช้จ่ายผ่านร้านค้าทั่วไป 3,288.4 ล้านบาท

มีเพียง 8% เท่านั้นที่เข้าสู่ห้างฯ หรือร้านโมเดิร์นเทรด เพราะช่วงเริ่มต้นผู้ประกอบการบางรายทำโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า จึงเร่งแก้ไขด้วยการสั่งยกเลิกโปรโมชั่น "ลด-แลก-แจก-แถม" ซึ่งเป็นการยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าโครงการชิมช้อปใช้ไม่ได้เอื้อประโยชน์นาย หรือเงินไหลเข้าตระกูลใหญ่ ในทางกลับกันเม็ดเงินกระจายเข้าร้านค้าชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ที่สำคัญเป็นการใช้จ่ายในเมืองรองมากกว่าเมืองหลักมากถึง 17,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60%

“ผมได้รับมอบหมายจากท่านอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ลงพื้นที่ติดตามความเรียบร้อยของโครงการอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่ม เม็ดเงินได้กระจายลงสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง ร้านค้าของชาวบ้านได้รับประโยชน์ ยอดขายปรับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% บางร้านปรับเพิ่มทะลุ 100% ก็มี เม็ดเงินไม่ได้ไหลเข้าผู้ประกอบการรายใหญ่ตามที่มีการอภิปราย ผู้ที่ได้รับรางวัลจากการลุ้นโชคก็เป็นชาวบ้านและผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย รางวัลที่ 1 รถยนต์ โตโยต้า เป็นของชาวนาที่โคราช ที่เติมเงินของตนเองเข้าไปในกระเป๋า 2 (G-Wallet 2) ส่วนประเด็นที่คุณมิ่งขวัญเสนอให้แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และกฏหมายการค้าขายออนไลน์เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามเร่งแก้ปัญหาอยู่ ส่วนการดูแลงบประมาณด้านสาธารณสุข ตนก็ขอยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับประเด็นนี้เป็นลำดับต้นๆ อยู่แล้ว เพราะการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ถือเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายชาญกฤชกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook