ดร.คณิศ จับตาความขัดแย้งในเอเชีย

นายคณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กล่าวในการสัมมนา "เปิดมุมมองการลงทุนรับเศรษฐกิจปี 2556" ว่า มองทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2556 จะสามารถขยายตัวได้ ร้อยละ 4.5 - 5 เนื่องจากความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ทั้งในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับนโยบายการลงทุนภาครัฐที่มีความชัดเจน ทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ดี ซึ่งดุลบัญชีเดินสะพัดจะลดลงจากการนำเข้าสินค้าเพื่อการลงทุน จึงไม่ถือเป็นเรื่องที่น่าวิตก ที่ในปีนี้ ประเทศไทยจะขาดดุลการค้าและขาดดุลบัญชีเดินสะพัด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นห่วงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในชาติเอเชีย ทั้งจีน - ญี่ปุ่น, เกาหลีเหนือ - เกาหลีใต้ หากเกิดความรุนแรงจะกระทบต่อภาพรวมในภูมิภาค ซึ่งจะต้องมีการจัดตาอย่างใกล้ชิด แต่เชื่อว่าหลังมีการเปลี่ยนผู้นำใหม่ของหลายประเทศ จะทำให้ความขัดแย้งลดลงได้นอกจากนี้ นายคณิศ ยังเปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เป็นปัญหาระยะสั้น ที่มองว่าภาคการส่งออกจะยังไม่ได้รับผลกระทบในขณะนี้ เพราะคำสั่งซื้อจะมีมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้นเห็นว่า หากค่าเงินบาทแข็งค่าไม่เกินร้อยละ 3 ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการอัตราดอกเบี้ยเข้ามาดูแล ซึ่งทาง นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์มากนัก โดยส่งผลต่อการนำเข้าสินค้าเหล็กถูกลงเพียงเล็กน้อย