ลงทุนไม่หยุด!! "นิมมานเหมินท์" ถนนสุดฮอตเชียงใหม่

ลงทุนไม่หยุด!! "นิมมานเหมินท์" ถนนสุดฮอตเชียงใหม่

ลงทุนไม่หยุด!! "นิมมานเหมินท์" ถนนสุดฮอตเชียงใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นถนนสายเศรษฐกิจสุดฮอตของเชียงใหม่ในขณะนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับถนนนิมมานเหมินท์ ที่สองฝั่งถนนและทุกตรอกซอยบนถนนสายนี้มีการใช้พื้นที่ในเชิงพาณิชย์และการบริการอย่างอัดแน่นแทบทุกตารางเมตร

ตามตรอกซอกซอยเนืองแน่นไปด้วยโรงแรม คอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ ธนาคาร ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ผับ-บาร์ ฯลฯ นี่ยังไม่รวมถึงร้านจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้าน งานศิลปะ ที่หลากหลายประเภท และ

โดดเด่นทั้งเรื่องดีไซน์และราคา มีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึงหลักหลายหมื่นบาท ว่ากันว่าในแต่ละปีจะมีเม็ดเงินสะพัดนับ 100 ล้านบาท

วันนี้ ถนนนิมานเหมินท์ถือเป็นย่านช็อปปิ้ง กิน ดื่ม เที่ยว และพักอาศัย ที่ทุกคนกล่าวถึงและต้องไปสัมผัส จากเดิมที่เป็นที่อยู่อาศัยอันแสนสงบ ทว่าในช่วงระยะ 10 ปี กระแสการลงทุนได้พาเหรดปักฐานบนถนนสายนี้อย่างต่อเนื่อง จนถึงเวลานี้ก็ยังคงไหลบ่าไม่หยุด ส่งผลให้ราคาที่ดินดีดขึ้นไปถึงตารางวาละเหยียบ 200,000 บาท ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถนนสายนี้คือถนนสายเศรษฐกิจอีกแห่งหนึ่งของเชียงใหม่

นอกจากการเป็นแหล่งรวมของธุรกิจที่หลากหลายแล้ว ถนนสายนี้ยังเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของการประลองแนวคิด การออกแบบ งานสถาปัตย์ที่โดดเด่น ผนวกกับปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งที่มีนักศึกษาและประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมาก และอยู่ในจุดใจกลางที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญหลายสาย เช่น ถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ถนนห้วยแก้ว ถนนศิริมังคลาจารย์ ถนนสุเทพ รวมทั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลหลายแห่ง และสนามบิน เป็นต้น


นี่คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดการลงทุน

"ไกรสิทธิ ฟูสุวรรณ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟวาวี จำกัด ทุนท้องถิ่นผู้บุกเบิกร้านกาแฟ "กาแฟวาวี" ร้านกาแฟรายแรกบนถนนสายนี้ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี บนถนนเส้นนี้ก็มีการลงทุนมาโดยตลอด ปัจจุบันการลงทุนใหม่ ๆ ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารเกาหลี ร้านอาหารทั่วไป ร้านกาแฟ และผับ ซึ่งมีสัดส่วนราว ๆ 70% รองลงไปคือ โรงแรม และคอนโดฯ ในสัดส่วน 20% และ 10% ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ ธุรกิจที่เข้ามาลงทุนบนถนนเส้นนี้มีถึง 70% ที่ต้องม้วนเสื่อกลับไป และมีเพียง 30% เท่านั้นที่อยู่รอด ธุรกิจที่ไปไม่ไหวก็จะขายหรือเซ้งกิจการต่อ การลงทุนที่เกิดขึ้นจึงเป็นไปในลักษณะหมุนเวียนเปลี่ยนมือมาโดยตลอด

"ไกรสิทธิ" ให้ข้อมูลว่า เฉพาะธุรกิจร้านกาแฟ ถึงวันนี้คาดว่าจะมีอยู่ 70-80 ร้าน ด้วยจำนวนร้านที่มากดังกล่าวจึงทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดถูกแย่งไป และจากปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอจึงทำให้ลูกค้าลดลงไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังมองว่า แนวโน้มการลงทุนบนถนนสายเศรษฐกิจสายนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี และในระยะ 3-5 ปี ก็ยังเติบโตได้อีก

กระแสการลงทุนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันราคาที่ดินบริเวณติดถนนสายหลักพุ่งขึ้นตารางวาละประมาณ 200,000 บาท ขณะที่ในถนนซอยตารางวาละประมาณ 100,000 บาท

ขณะที่ "ราเชน อินทวงศ์" ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมแอท นิมาน บนถนนนิมมานเหมินท์ แสดงทรรศนะว่า แม้ว่าการลงทุนบนถนนเส้นนี้จะมีเกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก แต่ก็ปิดตัวไปมากเช่นกัน ธุรกิจไหนที่ดำเนินกิจการไปไม่รอดก็จะเช่า-เซ้ง-ขายกิจการต่อให้กลุ่มทุนใหม่

ธุรกิจที่มีการลงทุนมากในขณะนี้คือ ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารเกาหลี ร้านกาแฟ ส่วนโรงแรมและคอนโดฯที่เป็นการลงทุนใหม่ ๆ จากนี้อาจมีไม่มากนัก เนื่องจากที่ดินเริ่มมีจำกัด เพราะมีการซื้อขาย-เช่ากันไปเกือบหมด ที่สำคัญคือราคาที่ค่อนข้างสูง เฉลี่ย 80,000-200,000 บาท/ตร.ว. การลงทุนอาจไม่คุ้มค่า

สอดคล้องกับ "ทัศนัย บูรณุปกรณ์" นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ที่กล่าวว่า ที่ผ่านมาการลงทุนโรงแรมและคอนโดฯที่เกิดขึ้นมากบนถนนเส้นนี้ เหตุผลหนึ่งคือ การเร่งสร้างก่อนที่กฎหมายผังเมืองจะประกาศใช้ ประกอบกับถนนสายนี้มีศักยภาพและมีโอกาสที่จะเติบโตได้ เนื่องจากถนนนิมมานเหมินท์เป็นถนนสายเศรษฐกิจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมา แต่การลงทุนใหม่ ๆ จากนี้ไป เนื่องจากราคาที่ดินค่อนข้างสูงมาก การลงทุนอาจเป็นลักษณะของการเปลี่ยนมือ หรือต่อเติมสิ่งก่อสร้างเดิมเป็นหลัก

จากการสำรวจของ "ประชาชาติธุรกิจ" พบว่า ขณะนี้นอกจากถนนสายนี้จะยังมีการก่อสร้างโรงแรมและคอนโดฯอยู่บ้าง แต่ก็มีผู้ประกอบการที่พักอาศัยจำนวนหนึ่งได้ปรับรูปแบบที่พัก เช่น หอพักปรับเป็นโรงแรม เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

นี่คือสีสันของถนนสายเศรษฐกิจสำคัญของเชียงใหม่ที่ยังมีมนต์ขลัง และจูงใจนักลงทุนรายใหม่ ๆ มิคลาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook