ผู้ว่าฯ ธปท. รับขาดทุนอุ้มบาท 5.3 แสนล.

ผู้ว่าฯ ธปท. รับขาดทุนอุ้มบาท 5.3 แสนล.

ผู้ว่าฯ ธปท. รับขาดทุนอุ้มบาท 5.3 แสนล.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวในงานมอบรางวัล BIBOR Awards 2012 ว่า ทาง ธปท. ได้ผลักดัน ให้ทางธนาคารพาณิชย์หันมาใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นตลาดกรุงเทพ หรือ BIBOR มาแทนธุรกรรมทางการเงินให้มากขึ้น เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอื่น อาทิ อินเตอร์แบงก์เรต ที่มักเคลื่อนไหวผันผวนตามสถานการณ์การเงินในตลาดโลก และเป็นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยต่างประเทศ ซึ่งอาจมีความผันผวนได้ โดยเฉพาะหากดอลลาร์สหรัฐ มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ มักจะมีผลต่อผู้ที่ทำธุรกรรมอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ขาดทุนอย่างไม่เป็นธรรม ส่วนอัตราอ้างอิงดอกเบี้ยรายใหม่ หรือ MLR ก็ไม่มีความคล่องตัว เนื่องจากเป็นดอกเบี้ยคงที่ ระยะนานกว่า 6 เดือน และเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ย BIBOR ส่งผลให้ต้นทุนในการกู้ยืมแพงขึ้น ดังนั้น จึงเห็นว่า สถาบันการเงินควรหันมาใช้อัตราดอกเบี้ย BIBOR ที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และสามารถบริหารความเสี่ยงได้มากกว่า นายประสาร เปิดเผยถึงข้อมูลของทางธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ขาดทุนสะสมกว่า 5.3 แสนล้านบาท มาจากการแทรกแซงค่าเงินที่แข็งค่าของเงินบาท ในปี 2551 และขาดทุนจากส่วนต่างดอกเบี้ยอีกกว่าแสนล้านบาท ว่า ทาง ธปท. สามารถบริหารจัดการได้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากรายจ่ายดอกเบี้ยที่อยู่ที่ร้อยละ 8 สูงกว่าดอกเบี้ยที่รับร้อยละ 2 ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้รัฐบาลตั้งงบประมาณมาใช้หนี้ หรือรบกวนเงินภาษีของประชาชน โดยย้ำว่า หน้าที่ของทางธนาคารกลาง มีไว้เพื่อดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการเงิน และดูดทรัพย์แรงกระแทกจากความผันผวนที่เกิดขึ้น ซึ่งตามหลักสากลการวัดผลงานของแบงก์ชาติ จะดูจากการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ มากกว่าการแสวงหาผลกำไร  
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook