พงษ์ศักดิ์บอกนายกห่วงไฟดับ-เล็งขึ้นค่าFTสิ้นปี

พงษ์ศักดิ์บอกนายกห่วงไฟดับ-เล็งขึ้นค่าFTสิ้นปี

พงษ์ศักดิ์บอกนายกห่วงไฟดับ-เล็งขึ้นค่าFTสิ้นปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงต่อที่ประชุมถึงปัญหาการหยุดส่งก๊าซของพม่า เพราะมีปัญหาแท่นขุดเจาะทรุดจึงต้องมีการปิดซ่อมบำรุง ระหว่างวันที่ 4 - 12 เม.ย.นี้ และมอบหมายให้ กระทรวงพลังงาน เร่งแก้ไขปัญหาในระยะสั้นเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ โดยในวันพรุ่งนี้ กระทรวงพลังงาน จะหารือกับไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ถึงแนวทางการใช้พลังงานส่วนนี้เข้ามาทดแทนชดเชยก๊าซที่ทำให้การผลิตไฟฟ้าขาดหายไปกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมีผลต่อการผลิตไฟฟ้าของไทย จำนวน 6 โรงไฟฟ้า  เบื้องต้นจะเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ โรงไฟฟ้าน้ำมันเตา และโรงไฟฟ้าน้ำมันดีเซล มาผลิตไฟฟ้าทดแทน ซึ่งคาดว่าจะทดแทนได้ประมาณ 4,100 เมกะวัตต์ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานราชการ ร่วมมือกันประหยัดพลังงานให้มากที่สุดและรณรงค์ให้มีการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นในภาคครัวเรือนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวยอมรับว่า ในช่วงที่มีปัญหาการขาดก๊าซ NGV ในการผลิตไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยนั้น ที่จะได้รับผลกระทบในส่วนการผลิตไฟฟ้า กว่า 6,000 เมกะวัตต์ ยอมรับว่าอาจจะมีการพิจารณาปรับเพิ่มการขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กพพ.) ซึ่งจะมีการพิจารณาภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากการปรับขึ้นนั้น มาจากเหตุที่ต้องนำพลังงานอื่นทดแทนมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า อาทิ น้ำมันดีเซล และน้ำมันเตา นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน ยังคงจะเดินหน้าเจรจากับพม่า ถึงการเลื่อนการซ่อมแซมท่อขุดเจาะก๊าซ ที่มีปัญหาทรุดตัวออกไปอีก 1 สัปดาห์ เพื่อให้ตรงช่วงเทศกาลที่จะมีการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมลดลง แต่ทางพม่ายืนยันว่าจะต้องซ่อมแซมตามแผน แต่จะเลื่อนออกไปให้กับไทย 2 - 3 วัน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจกระทบกับประเทศไทย มีเหตุไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ในช่วงระหว่างวันที่ 4 - 12 เมษายนนี้ เพราะกำลังการผลิตไฟฟ้าจะขาดหายไปกว่าร้อยละ 20 จากปัจจุบันที่ผลิตได้ 32,000 เมกกะวัตต์ ของกำลังการผลิตทั้งหมด  สำหรับประมาณการณ์การใช้ไฟฟ้าในปีนี้ ทางกระทรวงพลังงาน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 27,000 เมกกะวัตต์ จากปีก่อนที่อยู่ที่ 26,690 เมกกะวัตต์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook