ถอดบทเรียน “ฌอน บูรณะหิรัญ” รับบริจาคเงินอย่างไรไม่ให้มีปัญหาเรื่องภาษี

ถอดบทเรียน “ฌอน บูรณะหิรัญ” รับบริจาคเงินอย่างไรไม่ให้มีปัญหาเรื่องภาษี

ถอดบทเรียน “ฌอน บูรณะหิรัญ” รับบริจาคเงินอย่างไรไม่ให้มีปัญหาเรื่องภาษี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หาก ฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดังทำตามหลักการและขั้นตอนการเปิดรับเงินบริจาคช่วยทีมดับไฟป่าภาคเหนือและโควิด-19 อาจไม่มีปัญหาทั้งด้านการเงินและภาษีในภายหลัง

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นสำหรับ ฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดังที่เปิดรับเงินบริจาคช่วยเหลือทีมดับไฟป่าและโควิด-19 จนหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตหลายประการพร้อมเร่งให้กรมสรรพากรตรวจสอบเงินบริจาคดังกล่าวว่าจะต้องเสียภาษีด้วยหรือไม่

แน่นอนว่าเงินบริจาคนั้นเป็นเงินที่ผู้ร่วมบริจาคให้เงินไปช่วยเหลือเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยผ่านตัวกลาง หรือตัวแทน โดยตัวแทนจะต้องชี้แจงรายละเอียดยอดเงินบริจาคให้ครบถ้วนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง บางคนอาจสงสัยว่าแล้วจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้มีปัญหาทั้งการเงินและภาษีล่ะ Sanook Money มีข้อมูลดีๆ มาฝากกัน

โดยเพจเฟซบุ๊ก TaxBugnoms โพสต์ข้อความเกี่ยวกับหลักการ “การรับบริจาคเงินอย่างไรไม่ให้มีปัญหาทั้งการเงินและภาษี” โดยระบุรายละเอียดดังนี้

หากใครสักคนหนึ่งอยากเป็นคัวแทนรับบริจาคให้คนอื่นฝากเงินไปช่วยเหลือ หรือระดมเงินเพื่อทำอะไรสักอย่างสิ่งที่เขาต้องเคลียร์ให้ชัด คือ

  เงินบริจาคนั้นไม่ใช่เงินเรา ต้องเอาไปใช้ให้ตรงจุด

ตอนจะเปิดระดมรับเงินบริจาคเรารับปากคนอื่นว่าอย่างไร ต้องใช้และให้ตามวัตถุประสงค์นั้น

  เงินบริจาคต้องไม่ใช่รายได้เราไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นประเด็นด้าน “ภาษี”

การรับเงินบริจาคนี้ต้องไม่ถูกนับเป็นเงินได้ตามกฎหมาย ทำให้การเข้า-ออกของเงินต้องชัดเจนโดยเรามีหน้าที่เป็นตัวกลางผ่านเงินเท่านั้น

  สิ่งสำคัญที่ควรทำสำหรับกรณีเปิดบัญชีรับบริจาค

  1. แยกบัญชีออกมาให้ชัดไม่ควรเอาเงินบริจาคปะปนกับเงินเรา
    • เพื่อให้ที่มาของเงินชัดเจนควรเปิดบัญชีใหม่ที่ใช้เพื่อการนี้ และมี Statement เดินรายการบัญชีให้ผู้ที่ร่วมบริจาคสามารถตรวจสอบได้ถึงยอดเคลื่อนไหวในบัญชีที่เข้า-ออก
  1. บัญชีรายรับรายจ่ายก็ต้องทำ
    • ถ้าแยกบัญชีแล้ว ยอดเงินเข้าจะเห็นชัดว่าทั้งหมดนี้ คือยอดที่ได้รับบริจาคเท่าไหร่ ส่วนยอดที่เบิกออกไปควรเบิกเป็นก้อน พร้อมกับมีรายละเอียดว่าเอาไปใช้จ่ายด้านไหนการทำบัญชีคือสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะมันคือการบอกว่าเงินถูกใช้ไปกับอะไร
  1. หลักฐานพิสูจน์ผู้รับก็ต้องมี เพราะการทำแบบนี้ต้องโปร่งใสทุกด้าน
    • หลักฐานที่ดี คือหลักฐานที่ระบุได้ชัดว่าใครเป็นคนรับเงินจากเรา พร้อมรายละเอียดที่พิสูจน์ได้แบบที่คนร่วมบริจาคไม่รู้สึกสงสัยทั้งในเรื่องของความน่าเชื่อของเอกสารไปจนถึงการใช้จ่ายเงินในแต่ละด้านที่เหมาะสม

อย่างไรก็ดี การเปิดบัญชีรับบริจาคเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและต้องใส่ใจ เพราะมันวัดกับความไว้ใจของคนที่ให้เงินมา หากไม่มีมั่นใจว่าเปิดบัญชีรับบริจาคและสามารถทำตามที่กล่าวในเบื้องต้นได้

สิ่งที่ง่ายที่สุดคือ แจ้งเลขบัญชีหน่วยงานที่ต้องการช่วยเหลือแล้วให้คนที่อยากช่วยโอนเงินเข้าบัญชีแทนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำได้เช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook