รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปภาพตลาด   รีบาวด์เพราะคำพูดเฟด รายวัน คาดดัชนีฯ รีบาวด์ แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,510 จุด จากข่าวบวก เฟดแถลงต่อ House financial service committee (Humphrey Hawkins testimony) ส่งสัญญาณยืดโครงการ Asset purchase ออกไปจากเดิมที่ตลาดคาดว่าจะสิ้นสุด 3Q13F กลยุทธ์เล่นรอบ คงมุมมองถ้าดัชนีฯ รอบนี้ขึ้นไม่เกิน 1,550 จุด อาจเป็น Peak ของรอบ คงแนะนำระวังการปรับฐานของดัชนีฯ (ดูรายงานเมื่อวันที่ 8 กพ. “Cautious optimism”) จากปัจจัยลบ 1) เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว 1Q13F 2) ต่างชาติขายล็อกกำไร 3) การประกาศผลการดำเนินงานถึงปัจจุบันส่วนใหญ่กำไรดีตามคาด และข่าวดีจากโบรกฯต่างชาติปรับเป้า SET index ขึ้น Price in ไปแล้ว 4) โบรกเกอร์คุมเข้ม Margin loan เพิ่มหลัง ตลท.เรียกประชุมสมาคมโบรกเกอร์ให้คุมการปล่อยสินเชื่อ ดัชนีฯปลายสัปดาห์คาดอ่อนตัวลง จากวิตก สหรัฐฯไม่สามารถตกลง การปรับลดงบประมาณรัฐฯ (Sequester) ก่อน 1 มีค. และดัชนีฯภาคการผลิตสหรัฐฯลดลง หุ้นเด่น BECL (save haven) CNT (อยู่ระหว่างเพิ่มทุน PP คาดราคาหุ้นอาจมี Downside จำกัด) Update ล็อกกำไร PYLON GUNKUL   ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดฯ (-) Morgan Stanley คาด Earning revision ของไทย และตลาดหุ้นเกิดใหม่ มีการปรับลดคาดการณ์กำไรลงแย่กว่าภูมิภาค (ดูกราฟด้านใน) โดยคาดตลาดหุ้นเกิดใหม่ EM และไทยมี Negative surprise -5% และ MS ลดน้ำหนักหุ้นไทยลงเหลือ Underweight จากแพงเกินภูมิภาค (0) ประชุม ครม.วานนี้ ลงมติเห็นชอบในหลักการ พรบ.เงินกู้ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ 2 ล้านล้านบาท FATF ถอดไทยออกจากบัญชีดำ กม.ฟอกเงิน (*) แถลงผลการดำเนินงาน Opportunity day ที่ ตลท. วันนี้ PYLON ILINK AGE SSI MINT (0/-) วันศุกร์คาดรายงานดัชนีฯภาคการผลิตโลก US ISM ลดลงเหลือ 52.5 จาก 53.1 ส่วนยุโรปคาด อิตาลี รายงาน PMI ลดลง 47.5 จาก 47.8 สเปนคาดไม่เปลี่ยนแปลง 46.1 และ ไทยรายงานเงินเฟ้อเดือน กพ.คาด +3.4% y-y (+) หุ้นมีข่าว: กลุ่มยานยนต์ คาดราคาหุ้นในกลุ่มมีโอกาสถูก Re-rate PE ขึ้น จากการเข้าตลาด (IPO) ของกลุ่มบริษัท Thai summit กลางปีนี้ (หุ้นใหญ่สุดในกลุ่ม AUTO) + CRANE คาดข่าวการประกาศงาน ให้เช่ารถเครนกับกลุ่ม STPI เพิ่มกำไรปีนี้เติบโตก้าวกระโดด + UMI กำไร 2012 657 ลบ. (ปี11 118 ลบ.) หากไม่รวมกำไรพิเศษปรับโครงสร้างหนี้ อยู่ที่ 171 ลบ. (ปี11 121 ลบ.) ดีตามคาด - SAT กำไรแย่กว่าคาดจากค่าใช้จ่ายโบนัสพิเศษ - ครม.อาจปรับแผนพัฒนาโรงไฟฟ้า (Power development plan) โดยเน้นโรงไฟฟ้าถ่านหินแทน Gas (เดิมเน้น Gas 2/3 เหลือ 1/2) คาดเป็นลบต่อ EGCO RATCH ที่เตรียมที่ดินทำเลติดโรง Gas เพื่อยื่นซองประมูล IPP ปลายเดือน เมย.นี้ (*) หุ้นรอขึ้น XD: 28 กพ. LPN@0.53 บ. MAJOR@0.48 บ. DCON@0.43 บ. / 1 มีค. IRPC@0.08 บ. PTTGC@2.45 บ.   MINT 11 เมย. XD @0.30 บ.   Investment theme: Safe haven play / หุ้นปันผลดี / Low beta CFRESH UMI SF BECL MAKRO   วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336   ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด   ประธานาธิบดีสหรัฐถกประเด็นลดงบประมาณ ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโอบามา ได้เริ่มถกประเด็นการตัดลดงบประมาณกับสภาคองเกรสซึ่งคาดว่าจะไม่สามารถหาข้อสรุปได้ทันก่อนวันที่ 1 มี.คตามวันกำหนดเริ่มตัดงบฯ นักวิเคราะห์คาดว่าประธานาธิบดีสหรัฐจะไม่กระตือรือร้นเท่าไรนักที่จะจบการประชุมก่อนวันที่กำหนด โดยคาดว่าคนอเมริกันจะเป็นฝ่ายกดดันพรรครีพับริกันโดยเฉพาะเรื่องการปรับขึ้นภาษีเพื่อลดปัญหางบประมาณ โฆษกของรัฐบาลประเมินว่าจะไม่มีการเจรจาต่อรองเรื่องการตัดลดงบประมาณเพียงแต่เป็นการรับฟังความเห็นของพรรครีพับริกันเท่านั้น อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอีกครั้งก่อนการประชุมเริ่มขึ้นเนื่องจากคาดว่าจะเห็นการเลื่อนการลดงบประมาณไปอีกครั้ง (Bloomberg)   ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดไม่ขายพันธบัตร นายเบน เบอร์เนนเก้ได้สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนว่าเฟดจะไม่ขายพันธบัตรที่ซื้อไปก่อนหน้าจำนวน 3.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐออกมา แต่จะถือจนว่าพันธบัตรเหล่านั้นครบกำหนดอายุ ตามแผนการเงิน เฟดจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ปรับเปลี่ยนปริมาณเงิน และ ขายตราสารหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยในอีก 3-5 ปี ประธานเฟดได้เป็นบุคคลที่สามในบอร์ดการประชุมของเฟดที่สนับสนุนการเลื่อนมาตรการดึงสภาพคล่องการเงินออกจากระบบ ประธานเฟดยังให้ความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนว่า เค้าจะไม่ตัดสินใจขายพันธบัตรที่ซื้อมาก่อนหน้าเพื่อไม่สร้างความผันผวนต่อตลาดเงิน ตลาดทุน และไม่ได้หมายความว่างบดุลของเฟดจะเพิ่มพูลด้านหนี้สินขึ้นอย่างมหาศาลอย่างที่หลายนักวิเคราะห์คาดไว้ (Bloomberg)   ไฟเขียวคลังกู้เงิน 2 ล้านล้าน วางยุทธศาสตร์ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน ครม.เห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เปิดแผนลงทุนใน 3 ยุทธศาสตร์ ตั้งเป้าลดต้นทุนโลจิสติกส์และลดการสูญเสียน้ำมันเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี (หนังสือพิมพ์ )   ยอดนำเข้าม.ค.พุ่งทะลุ 40% \"เครื่องบิน-ทองคำ\" ขาดดุลกว่า 1.6 แสนล้านบาท นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือน ม.ค.56 มีมูลค่าการส่งออก 18,269 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 16.09% นำเข้ามูลค่า 23,755.8 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 40.87% ส่งผลให้มีดุลการค้าขาดดุลมากถึง 5,486.8 ล้านเหรียญฯ หรือ 164,604 ล้านบาท (30 บาทต่อ 1 เหรียญฯ) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะมีการนำเข้าเครื่องบินของบริษัท การบินไทย ที่มีมูลค่าถึง 600 ล้านเหรียญฯ และการนำเข้าทองคำที่มีมูลค่า 2,700 ล้านเหรียญฯ แต่หากหักลบทั้ง 2 รายการ ออกไปแล้วการขาดดุลการค้าไทยจะเหลือเพียง 2,150 ล้านเหรียญฯ ซึ่งไม่ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าสินค้าทุน วัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบ เพื่อนำมาผลิตสินค้าและส่งออกต่อ อีกทั้งการที่ค่าเงินบาทแข็งค่า น่าจะมีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการเร่งนำเข้ามากขึ้นด้วย (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   กิตติรัตน์รุกต่อบีบธปท.ลดดบ.ย้ำอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังสูงไป ธปท.เล็งผ่อนเกณฑ์โอนเงินข้ามประเทศ หวังดึงกลุ่มโพยก๊วนเข้าระบบ \"กิตติรัตน์\" เดินเกมรุกต่อ คงยืนยันดอกเบี้ยนโยบายสูงเกินไป \"ธปท.\" เตรียมผ่อนเกณฑ์นำเงินออกนอกประเทศ ตามแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม หวังเอื้อนักธุรกิจ โดยเฉพาะการค้าตามชายแดน ลดปัญหาโพยก๊วน ดึงเข้าสู่ระบบ พร้อมชี้โอกาสลงทุนต่างประเทศเพียบ เหตุปัญหาวิกฤติโลกทำราคาสินทรัพย์ลดลง ทั้งเงินบาทแข็งเพิ่มกำลังซื้อ ด้าน \"คลัง\"เล็งเพิ่มมาตรการจูงใจด้านภาษี ให้ใกล้เคียงต่างประเทศ หวังดันเอกชนลุยนอกมากขึ้น (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)   'พีดีพี'ใหม่ใช้ถ่านหินเพิ่ม อุตฯขู่ลดเกรดโรงงานไม่เซฟไฟ นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จะประสานงานไปยังอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกำชับให้โรงงานทั่วประเทศ ในเขต/สวนอุตสาหกรรม ที่กำกับดูแลโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าลงให้ได้อย่างน้อย 10% ตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงเป็นการรับมือภาวะวิกฤตด้านพลังงาน ที่แหล่งก๊าซธรรมชาติจะหยุดจ่ายก๊าซให้ไทย ในช่วงวันที่ 5-14 เม.ย. 2556 ซึ่งหากโรงงานใดสามารถปฏิบัติตามได้ จะมีส่วนในการพิจารณาจัดลำดับประเภทโรงงานใหม่ โดยประกาศดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมโรงงาน ซึ่งจะเสนอให้กระทรวงพิจารณาภายในเดือนมี.ค.นี้ ทั้งนี้ ประกาศจัดลำดับประเภทโรงงาน เบื้องต้นจัดไว้ 4 ลำดับคือ เกรดเอ เกรดบี เกรดซี และเกรดดี ซึ่งมีความแตกต่างในแง่การเข้าไปตรวจสอบ กำกับดูแล รวมถึงการให้สิทธิพิเศษต่างๆ (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)   ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1   รายงานวันนี้   หุ้น: AAV          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 7.60 AAV รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/55 ที่ 408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% YoY แต่ลดลง 279% QoQ ปัจจัยหนุนคือ 1)ตัวเลขการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้น, 2) ค่าโดยสารเฉลี่ยสูงขึ้น, 3) รายได้ในส่วนของบริการเสริมปรับตัวดีขึ้น, 4) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง, และ 5) เปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชี เราคาดกำไรหลักจะเติบโตแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 1/56 แนวโน้มกำไรปี 2556 เติบโตแข็งแกร่ง และมีอัพไซด์ต่อกำไรในปีนี้ มีแผนการขยายฝูงบินอย่างก้าวกระโดด จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของกำไรในระยะยาว   นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข   หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม   Technical Analysis   Security: SUSCO Position: ซื้อ เป้าหมาย : 4.3/4.5 Stop loss: <3.8 Reason: เป็นหุ้นที่น่าจับตามมอง เนื่องจากทะลุและยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น สอดคล้องกับวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นและเครื่องมือทางเทคนิคตัวขึ้นเป็นบวก   Security: LH Position: ซื้อ เป้าหมาย : 13.3/13.5 Stop loss: < 11.8 Reason: หุ้นเริ่มกลับมามีความน่าสนใจภายหลังจากดีดตัวทะลุแนวต้านสำคัญ 12 และยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั้งระยะสั้น กลางและยาว สอดคล้องกับเครื่องมือทางเทคนิคตัดขึ้นเป็นบวกและวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ   Security: TISCO Position: ซื้อ เป้าหมาย : 58/60 Stop loss: <53.5 Reason: เป็นหุ้นนำตลาดในกลุ่มแบงค์ขนาดกลาง ปัจจุบันราคาหุ้นดีดขึ้นบริเวณแนวรับ 54 บ. ส่งผลให้เครื่องมือทางเทคนิคตัดขึ้นเป็นบวกอีกครั้ง และมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นทะลุทำจุดสูงสุดใหม่ โดยมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 58-60   Security: PTTGC Position: ขายทำกำไร Reason: อยู่ในข่ายที่ต้องระวังเนื่องจากโมเมนตัมลดลง และส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาด ขณะที่ราคาหุ้นปิดต่ำกว่าเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง แนวโน้มทีโอกาสปรับลง   Security: KTB Position: ขายทำกำไร Reason: เรามองว่าหุ้นมีความเสี่ยงจากการปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นและปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับเดิม 25 อาจส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงแรง   Security: PS Position: ขายทำกำไร Reason: อยู่ในข่ายที่ต้องระวังเนื่องจากโมเมนตัมลดลงและส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาด ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 25 วัน   โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 28 ก.พ. 2556

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook