รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปภาพตลาดSideways Down                                    รายวัน คาดดัชนีฯ อ่อนตัวลง (รับ 1527 ต้าน 1550 จุด)  หลังจากพุ่งแรงวานนี้ เพราะ 1) คาดแรงซื้อ นลท.ต่างชาติจากการปรับน้ำหนักลงทุนตามดัชนี MSCI (rebalancing) เป็นเพียงแรงซื้อระยะสั้น (ครั้งเดียว) เพื่อ Complete order 2) แรงซื้อระยะสั้นรับข่าวญี่ปุ่นได้ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ภายใต้การนำของ นายกอาเบะ ซึ่งสนับสนุนนโยบายเยนอ่อนเป็นพิเศษ โดยจะโวตรับรอง 14-15 มีค.นี้ ส่งผลให้เยนอ่อน (เงินทุนไหลเข้าจากญี่ปุ่น)    กลยุทธ์เล่นรอบคงมุมมองระวังการปรับฐานของดัชนีฯ แนวต้านสำคัญ 1,550/1,560 จุด               หุ้นเด่น TNITY (รับ 6.9 บ.ต้าน 7.5 บ.) TGPRO (รับ 0.99 บ.ต้าน 1.06 บ.) ANAN (รับ 4.28 บ.ต้าน 4.44 บ.)  ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดฯ   (-) US Sequester พรรคเดโมแครตยังคงเจรจาขอชดเชยการตัดลดงบรัฐฯ $8.5 หมื่นล้าน ด้วยการดำเนินงบประมาณขาดดุล $1.1 แสนล้าน แต่ยังไม่มีแผนเจรจาจากทางรีพลับริกัน ทั้งนี้สภาสูงจะลงมติวันนี้ / คาดผลกระทบกรณีเจรจาไม่เป็นผล คาดกระทบ GDP สหรัฐฯปีนี้ราว 0.5%       (-) Morgan Stanley ลดน้ำหนักหุ้นไทย เพราะแพงเกินภูมิภาค (+) FTSE Index ประกาศทบทวนดัชนีรอบใหม่ กลางเดือนนี้ (16 มีค.) คาด BJC INTUCH ติดเข้าคำนวณ                           (*) กำไรดีตามคาด +ANAN TGPRO 4Q12 พลิกมีกำไร, THAI CENTEL BGH CFRESH (ตามคาด)    (+) ผู้ว่าแบงก์ชาติญี่ปุ่นคนใหม่มีแนวนโยบาย สนับสนุนเยนอ่อน โดยนายกอาเบะ เสนอชื่อ นาย Haruhiko Kuroda ขึ้นเป็น BOJ governor และ Kikuo Iwata กับ Hiroshi Nakaso เป็น BOJ deputy governors โดยจะโวตรับรอง 14-15 มีค.นี้ (0/-) วันนี้คาดรายงานดัชนีฯภาคการผลิต US ISM ลดลงเหลือ 52.5 จาก 53.1 ส่วนยุโรปคาด อิตาลี รายงาน PMI ลดลง 47.5 จาก 47.8 สเปนคาด PMI ไม่เปลี่ยนแปลง 46.1 และ ไทยรายงานเงินเฟ้อเดือน กพ.คาด +3.4% y-y (*) หุ้นรอขึ้น XD: 1 มีค. IRPC@0.08 บ. PTTGC@2.45 บ. / 4 มีค. BCP@0.90 บ. KTC@0.40 บ. RATCH@1.17 บ. / 5 มีค. BH@1.2 บ. KKC@0.20 บ. KSL@0.50 บ. / 6 มีค. PTT@8 บ. / 7 มีค. GLOBAL@0.0185 บ.+Stock dividend 6:1     Investment theme: Safe haven play / หุ้นปันผลดี / Low beta CFRESH UMI SF BECL วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด          ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมจีนร่วง สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนได้ประกาศตัวเลข PMI ประจำเดือนก.พที่ 50.1 จุดตกลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันจากคำสั่งซื้อล่วงหน้าชะลอซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 50.5 จุด และต่ำกว่าเดือนม.คที่ 50.4 จุด การฟื้นเศรษฐกิจของจีนรอบใหม่ถือเป็นงานที่ท้าทายรัฐบาลใหม่ของจีน เนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่นั้นต้องไม่สร้างปัญหาการเก็งกำไรจนราคาอสังหาฯเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ และ ต้องไม่สร้างปัญหาหนี้เสียแก่ธนาคารให้เพิ่มขึ้น ตัวเลขสำรวจสอบถามโดยธนาคาร HSBC และ Markit Economics จะประกาศในวันนี้คาดว่าตัวเลข Flash PMI เดือนมี.คอาจปรับตัวลงมาที่ระดับ 50.4 จุดซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 50.6 จุด และ เป็นตัวเลขที่ต่ำลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่ (Bloomberg)ธปท.จับตาหนี้ครัวเรือนพุ่ง นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดธปท.ได้ติดตามปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า ในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาสินเชื่อภาคครัวเรือนขยายตัวสูงถึง 16.6% ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัว 15% ซึ่งมีแรงกระตุ้นจากการปรับเพิ่มขึ้นของค่าจ้างค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และภาวะการเงินที่เอื้อต่อการกู้ยืม สำหรับเศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาขยายตัวดี ตามการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ขยายตัว 2% และการลงทุนที่ขยายตัวดีที่ 0.6% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนตามการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิต (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)หนี้จำนำพุ่ง 6 แสนล้าน'บุญทรง'สั่งเลื่อนถกกขช.ลดราคาจำนำข้าว อคส.ยันคืนเงินขายข้าว 5 หมื่นล้าน ปัดต้นเหตุทาธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง เปิดภาระหนี้รัฐ จากโครงการแทรกแซงราคา-รับจำนำสินค้าเกษตรที่ต้องชดเชย ธ.ก.ส.และสถาบันการเงินรัฐ ตั้งแต่ปี 2551-2556 สูงกว่า 6 แสนล้าน หวั่นกระทบสภาพคล่องและสินเชื่อปกติ คณะกรรมการปิดบัญชีขีดเส้นใช้หนี้คืนใน 4 ปี พร้อมตั้งงบประมาณโปะธ.ก.ส.ด้าน\"บุญทรง\"สั่งเลื่อนถกกขช. ยันยังไม่เคาะลดราคาจำนำข้าว (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)ทุนไหลเข้า 2 เดือนเม็ดเงิน 2.7 พันล้านดอลล์ ธปท. เผย 2 เดือนแรกปีนี้ เงินทุนไหลเข้า2.7 พันล้านดอลลาร์ น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ค่าบาทแข็งเพราะนักลงทุนเชื่อมั่น ขณะที่แถลงตัวเลขเศรษฐกิจใจเดือนม.ค. ขยายตัวต่อเนื่อง ตามการบริโภค-ลงทุน ในประเทศ ด้านประเทศยักษ์ใหญ่โลกประกาศเดินหน้าอัดฉีดไม่มีกำหนด หนุนค่าเงินเอเชียแข็งค่ายกแผง ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์แข็งค่า 3% ตั้งแต่ต้นปี มากที่สุดในภูมิภาค (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)'ไทย-พม่า'ดึงญี่ปุ่นร่วมเจซีซีเคาะรูปแบบลงทุนนิคมทวาย \"นิวัฒน์ธำรง\" เผยประชุมร่วมไทย - พม่า พัฒนาเขตเศรษฐกิจทวาย 6-9 มี.ค. สรุปรูปแบบลงทุน พร้อมทบทวนแผนเดิมระบุบางส่วนไม่คุ้มทุน ดึงรัฐบาลญี่ปุ่นร่วมวง คาดเดือนเม.ย. เสนอนายกฯ ลงนามร่วม \"เต็ง เส่ง\" สศช.ย้ำความสำคัญโครงการทวายเป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ดึงดูดการลงทุนตรงจากต่างประเทศ ขณะที่ นักวิชาการแนะรัฐจับมือญี่ปุ่นตั้งศูนย์ฝึกแรงงานพม่า ปั้นแรงงานมีฝีมือป้อนนิคมฯ ทวาย ก่อนแรงงานไหลกลับประเทศ หวั่นวิกฤติแรงงานภาคอุตสาหกรรม (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)ปี 56 ผลิตรถเพิ่ม 2.8 ล้านคัน เร่งส่งมอบลูกค้าพุ่งกระฉูด นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ไทยในปี 56 จาก 2.5 ล้านคันเป็น 2.8 ล้านคัน แบ่งเป็นผลิตขายในประเทศ 1.6 ล้านคันเพิ่มจากปีก่อน 12.24% ส่งออก 1.2 ล้านคันเพิ่ม 17.29% เนื่องจากความต้องการสินค้าจากผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศขยายตัวมากขึ้นจนกำลังการผลิตของค่ายรถยนต์เต็มกำลังการผลิต 100% รวมถึงผู้ประกอบการเร่งออกแคมเปญใหม่ในการจูงใจลูกค้าที่หลากหลาย หลังจากนโยบายการคืนภาษีรถยนต์คันแรกสิ้นสุดในปี 55 ที่ผ่านมา (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1รายงานวันนี้          หุ้น: THAI          คำแนะนำ: ซื้อเก็งกำไร          ราคาเป้าหมาย (บาท): 27.00 THAI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/55 ที่ 2,361 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ 5,388 ล้านบาทในไตรมาส 4/54 และเพิ่มสูงขึ้น 35% QoQ กำไรสุทธิออกมาสูงกว่าประมาณการของเราและตลาด เนื่องจากกำไรจากรายการพิเศษ ในขณะที่ขาดทุนหลักเป็นไปตามคาด คาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 1/56 ของ THAI จะพลิกฟื้นเป็นกำไร หนุนโดยการเติบโตของตัวเลขการจราจร, รายได้จากผู้โดยสารต่อหน่วยที่เพิ่มสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2556 ไว้ตามเดิมที่ 6,014 ล้านบาทนักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุขหุ้น: CENTEL          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 44.00 CENTEL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/55 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 743 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 891% YoY และ 720% QoQ ผลประกอบการที่ออกมาสูงกว่าทุกคาดการณ์ เป็นผลมาจากกำไรจากการเข้าซื้อกิจการ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 0.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 0.8% CENTEL จะรายงานกำไรหลักทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 1/56 หนุนโดยธุรกิจโรงแรม เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2557 ขึ้นอีก 3% เพื่อสะท้อนรายได้ค่าธรรมเนียมการบริหารรจัดการโรงแรมที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เราคงคำแนะนำ ซื้อ นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทรหุ้น: BGH          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): U/R BGH รายงานกำไรหลักไตรมาส 4/55 ที่ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% YoY แต่ลดลง 30% QoQ ผลประกอบการที่ออกมาเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด กำไรหลักเติบโตแข็งแกร่ง หนุนโดยรายได้กลุ่มการแพทย์ที่ขยายตัว 19% YoY และอัตรากำไรหลักเพิ่มสูงขึ้น กำไรหลักไตรมาส 1/56 ของ BGH จะกลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่ง YoY และ QoQ ด้วยปัจจัยทางฤดูกาล เรายังคงประมาณการไว้เท่าเดิม และคงคำแนะนำ ซื้อ หนุนโดยอัพไซด์ต่อกำไรสุทธิ นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็มTechnical Analysis           Security: TNITY Position: ซื้อ เป้าหมาย : 7.8/8 Stop loss: <6.75 Reason: ทะลุแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 7 คาดหมายการกลับขึ้นทดสอบยอดเดิมหรือทะลุผ่าน ให้แนวต้านบริเวณ 7.8 และ 8 Security: INTUCH Position: ซื้อ เป้าหมาย : 75/76 Stop loss: < 70 Reason: หุ้นเริ่มกลับมามีความน่าสนใจภายหลังจากดีดตัวทะลุแนวต้านสำคัญ 71 สอดคล้องกับเครื่องมือทางเทคนิคตัดขึ้นเป็นบวกและวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Security: AOT Position: ซื้อ เป้าหมาย :125/128 Stop loss: <115 Reason: เป็นหุ้นนำตลาดในกลุ่มขนส่ง ปัจจุบันราคาหุ้นดีดขึ้นบริเวณแนวรับ 115 บ. ส่งผลให้เครื่องมือทางเทคนิคตัดขึ้นเป็นบวกอีกครั้ง และมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นทะลุทำจุดสูงสุดใหม่ โดยมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 125-128 Security: CPF Position: ขายทำกำไร Reason: อยู่ในข่ายที่ต้องระวังเนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงต่อเนื่อง และส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาด ขณะที่ราคาหุ้นปิดต่ำทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ แนวโน้มปรับลง            Security: RML Position: ขายทำกำไร Reason: เรามองว่าหุ้นมีความเสี่ยงจากการปรับตัวลงแรงหลุดเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นและการปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับเดิม 2.4 อาจส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงได้อีก            Security: NWR Position: ขายทำกำไร Reason: อยู่ในข่ายที่ต้องระวังเนื่องจากโมเมนตัมลดลงและส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาด ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน 2.98 หากหลุดอาจส่งผลให้หุ้นปรับตัวลงแรง            โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 1 มี.ค. 2556

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook