นายกฯปัดคุยบีอาร์เอ็นเกมการเมืองโต้ บึ้มนราฯตอบโต้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ พรรคประชาธิปัตย์ คัดค้านกรณีที่การที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ลงนามแสดงเจตนารมณ์กับ กลุ่ม BRN ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวานนี้ ว่า เป็นเพียงการแสดงเจตนารมณ์ให้เกิดสันติภาพ ยุติความรุนแรง เท่านั้น ยืนยันว่าไม่ใช่การเจรจาแต่อย่างใด โดยการลงนามครั้งนี้ ก็ไม่มีข้อผูกพันใดๆ ซึ่งเป็นการเริ่มหารือพูดคุย ไม่ได้หมายความว่า ลงนามแล้วจะไม่เกิดเหตุอีก หากหลังจากนี้สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ยังไม่ดีขึ้น ก็พร้อมที่จะไม่ดำเนินการขั้นตอนต่อไป แต่หากสถานการณ์ดีขึ้น ก็ยังคงเดินหน้าต่อ ทั้งนี้ เหตุรถจักรยานยนต์บอมบ์ ที่ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเช้านั้น จนท.รายงานแล้วว่า ไม่ใช่การตอบโต้ของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย แต่เป็นเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่อยู่แล้ว และไม่ถือเป็นการรองรับสถานะของ กลุ่ม BRNอย่างไรก็ตาม ขอให้ฝ่ายค้าน อย่ามองเรื่องการประสานงานกับมาเลเซีย เป็นเกมการเมือง เนื่องจากเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของชาติ ที่ต้องรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ซึ่งรัฐบาลเองก็ไม่ได้รับฟังเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ยินดีที่จะเชิญฝ่ายค้านร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยมอบหมาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เป็นผู้ประสานไป ส่วนกระแสข่าวการวางตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เป็นทีมรองผู้ว่าฯ กทม. นั้น นายกรัฐมนตรี ตอบเพียงว่า ให้ รอความชัดเจน หลังวันที่ 3 มีนาคม จะดีกว่า 'ภราดร'บอกใต้ยังไม่สงบลงนามBRNแค่เริ่มสันติภาพพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ผ่านรายการ เปิดข่าวเด่น เจาะประเด็นดัง ถึงการลงนามกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ว่า การลงนามดังกล่าว เป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน ในขบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ โดยอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า จะเป็นขึ้นตอนของการเจรจาข้อเรียกร้องต่างๆ รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา มีรัฐบาลมาเลเซียเป็นผู้ประสานงานเช่นเดิม ซึ่งการลงนามหรือการเจรจาที่จะเกิดขึ้น จะอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญไทย ทั้งนี้ ภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนเจรจาข้อเรียกร้องกับกลุ่มบีอาร์เอ็น พล.ท.ภราดร กล่าวยอมรับว่า ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่หรือไม่ เพราะการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่มีหลายกลุ่มที่กระทำ ทั้งกลุ่มค้ายาเสพติด หรือค้าน้ำมันเถื่อน อย่างไรก็ตาม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ยังไม่มีการนัดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นในประเทศไทยแต่อย่างใด 'ถาวร' ไม่เห็นด้วย มาเลย์เป็นตัวกลางการเจรจานายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ความพยายามที่จะหาสันติให้เกิดขึ้นในบ้านเราเป็นเรื่องที่ดี ถ้าทำด้วยความจริงใจก็เห็นด้วย แต่เกรงจะเป็นการเล่นละครตบตา ให้เห็นว่าที่ผ่านมา รัฐบาลไม่มีผลงาน แต่วันนี้ได้เดินไปในระดับหนึ่ง สิ่งที่น่าจับตามอง คือ คนที่หลบหนีหลังจากก่อความไม่สงบ ก็จะไปพึ่งพิงมาเลเซีย ซึ่งทางการมาเลเซียคงจะรู้แล้วขยับเข้ามาเป็นตัวกลาง ซึ่งตนไม่เห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องความสงบเรียบร้อยภายใน ที่เราต้องแก้ไขปัญหาเอง ถ้ามาเลเซีย จะให้ความร่วมมือ ก็ควรจะส่งตัว หรือส่งชื่อบุคคลที่เราต้องการมาให้ เพื่อที่จะเจรจาสันติ หรือเข้าสู่กระบวนการมาตรา 21 "ผมคิดว่านั่นเป็นการเมืองในมาเลเซียอีกบทบาทหนึ่ง ที่หลังจาก นาจิบ ได้เป็นพระเอกในมินดาเนาแล้ว ก็อยากจะมาเป็นพระเอกในภูมิภาคอีกซักเรื่องหนึ่ง เพราะเมษาฯนี้ ก็จะมีการเลือกตั้งใหญ่ในมาเลเซีย"อย่างไรก็ตาม นายถาวร กล่าวอีกว่า อยากจะเห็นโรดแมป และเห็นอนาคตของการเจรจาที่เกิดขึ้นจริง ๆ ที่สำคัญ กองกำลังรุ่นใหม่จะเห็นด้วยหรือไม่ และกลุ่มวาดะห์ที่จะลุกขึ้นมาผงาดเป็นคู่ต่อสู้กับประชาธิปัตย์ จะเห็นอย่างไร