เทคนิคพิชิตใจหัวหน้างาน ใช้กลยุทธ์แบบไหนถึงจะดี
จะทำอย่างไรถ้าเจ้านายไม่เคยสนใจผลงานของคุณเกือบทุกครั้งเอาเสียเลย ปัญหาคาใจใหญ่หลวงที่มักจะเกิดกับคนทำงานกว่า 70 เปอร์เซ็นต์
นั่นคือ รู้สึกหมดกำลังใจหรือน้อยอกน้อยใจอยู่บ้าง หากคุณได้ทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจ มุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานนั้นด้วยความตั้งอกตั้งใจมาโดยตลอด
แต่เจ้านายคนดีของคุณกลับมองข้ามความสามารถของคุณอย่างเมินเฉย แล้วคุณเองก็ไม่ใช่ประเภทชอบยกยอปอปั้น เอาอกเอาใจใครเป็นพิเศษเพื่อหวังผลเสียด้วย วันนี้เรามาดูด้วยกันว่าจะทำอย่างไรที่จะเอาชนะใจหัวหน้าได้
1.พยายามสร้างผลงานต่อไป
ความดีย่อมเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว แม้ว่าวันนี้เจ้านายของคุณจะยังมองไม่เห็น แต่นานวันผ่านไปสิ่งดี ๆ ที่คุณกระทำต้องเข้าตากรรมการแน่นอน พยายามทำตัวเป็นลูกน้องที่ดี มาทำงานตรงเวลา สิ่งเหล่านี้ใคร ๆ ก็รู้ใคร ๆ ก็เห็น หลักฐานก็อยู่ในบัตรตอกเวลาและผลงานของคุณเองนั่นแหละครับ
2.อย่าเป็นคนแข็งจนเกินไปนัก
อย่าคิดว่าการพูดจาเอาอกเอาใจเจ้านาย จะเป็นการเลียแข้งเลียขาเสมอไป คุณสามารถเลือกชม เลือกพูดให้ตรงกับใจคุณก็ได้ เพียงแต่เลือกพูดเฉพาะสิ่งดี ๆ เท่านั้น
อย่างเช่น ถ้าวันนี้คุณรู้สึกว่าเนกไทสีดำลายกนกเส้นใหม่ของเจ้านายดูเก๋ไก๋เสียเหลือเกิน คุณเพียงแต่พูดมันออกมา ใครๆ ก็ชอบให้มีคนชมทั้งนั้นแหละ
โดยเฉพาะเมื่อซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายใหม่ ๆ มาก็อยากให้มีคนช่วยบอกว่าดีหรือไม่ดี ลองเปลี่ยนจากคำนินทาหัวหน้าของคน มาชมเชยหัวหน้าคุณด้วยความจริงใจดู แล้วลองดูว่ามีอะไรดี ๆ เปลี่ยนแปลงเข้ามาบ้าง
3.พยายามขอคำแนะนำ หรือปรึกษาปัญหากับเจ้านายบ้าง
ในเรื่องการทำงาน เมื่อคุณไม่ชัวร์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับงาน การปรึกษาเจ้านายจะทำให้เขาภาคภูมิใจและรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ เพราะถือว่าได้มีส่วนร่วมกับผลงานชิ้นนั้น
เพราะหัวหน้าบางคนก็เพิ่งเริ่มที่จะมาเป็นหัวหน้าคน เขาต้องการการยอมรับจากลูกน้องเป็นธรรมดา
หากคุณทำให้เขารู้ว่าหัวหน้าของคุณเป็นที่น่าเชื่อถือต่อลูกน้องอย่างคุณ คราวนี้ผมคิดว่า ฟ้ามีตา อย่างไรหัวหน้าคุณก็จะเริ่มหันมามองผลงานและเข้าข้างคุณบ้างนั่นแหละครับ
4.อย่าทำตัวรู้มากเกินคนอื่น
เมื่อคุณอยู่ร่วมในหัวข้อสนทนาใด ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีเจ้านายร่วมวงด้วย ควรรับฟังสิ่งที่คนอื่นพูดมากกว่าที่จะเป็นฝ่ายเสนอความเห็น แต่เมื่อมั่นใจว่าสิ่งนั้นคุณรู้จริง ๆ ก็แสดงออกมาให้คนอื่นได้เห็นกันเลยว่า ที่นั่งเงียบๆ อยู่น่ะใช่ว่าคุณจะไม่รู้อะไร เพียงแต่คุณไม่อยากหักหน้าใครๆ เท่านั้น เพราะการหักหน้าผู้อื่นก็เท่ากับว่าเป็นการเสียมารายาท สังคมจะรังเกียจได้อย่างง่ายๆ ดังนั้น หากอยากเป็นที่รักของหัวหน้าของคุณ คุณต้องให้เกียรติกับหัวหน้าและคนรอบข้างเสมอ
5.อย่าพยายามทำตัวเลียนแบบเข้ากลุ่มพวกที่ชอบตามเจ้านายต้อยๆ เด็ดขาด
เป็นตัวของคุณเองให้มากเข้าไว้ เพราะคุณไม่มีทางรู้หรอกว่าเจ้านายของคุณใช่จะไม่รู้อะไรเลย เขาอาจรู้ว่าใครเป็นยังไง เพียงแต่ไม่อยากทำให้ใครเสียความรู้สึกก็ได้
จึงทำเหมือนพึงพอใจในสิ่งที่ลูกน้องเหล่านั้นพยายามยัดเยียด เมื่อคุณกลายเป็นคนพิเศษที่ทำอะไรเหมาะสม เจ้านายของคุณมีหรือจะไม่แอบนิยมคุณอยู่ในใจบ้าง
แต่ถ้าหากเจ้านายของคุณเกิดเป็นประเภทชอบให้คนอื่นตามมาพะเน้าพะนอเอาใจ คุณก็ต้องเอ่ยชมแต่พอดีบ้างในบางโอกาสก็พอ ที่เหลือต้องรอเวลาให้ผลงานของคุณพิสูจน์ตัวเองเท่านั้น
6.หากคุณโชคร้ายได้เจ้านายประเภทขี้โมโหเอาแต่ใจตัวเอง
คุณควรพยายามเรียนรู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาหรือเธอไม่พอใจ และเลี่ยงให้ไกลจากมันมากที่สุด ทำงานของคุณไปตามสเตปที่เจ้านายวางไว้ โดยไม่ลืมที่จะระวังไม่ให้ใครทำอะไรที่เป็นที่ขุ่นเคืองด้วย เพราะผลกระทบย่อมตกอยู่ที่คุณเช่นกัน
7.เมื่อถึงเวลาต้องพรีเซ้นต์ คุณต้องพร้อมเสมอ
แม้ว่าคุณจะเป็นคนเก่งสักแค่ไหน แต่หากเก็บงำไว้เงียบ ๆ คนเดียวแล้วละก็ ไม่มีวันที่ใครจะได้รับรู้อย่างแน่นอน จำไว้เลยว่าคุณต้องพร้อมในทุกเวลา
การทำงานแบบมืออาชีพ สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญนั่นคือ มืออาชีพ จะพร้อมเสมอแม้ดูเหมือนสถานการณ์ตอนนั้นไม่เอื้ออำนวยกับความพร้อมนั้นเลย
คุณต้องหัดฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตั้งแต่วันนี้ เพื่อวันข้างหน้าคุณจะได้พร้อมในทุกเวลา
ที่กล่าวมาทั้งหมด แม้ว่าบางข้ออาจดูเหมือนไม่ได้เกี่ยวกับการสร้างผลงานเอาเสียเลย แต่คุณควรจะรู้ไว้ว่าบุคลิกภาพคือส่วนที่ช่วยสนับสนุนให้ภาพลักษณ์ของคุณดูดีในสายตาคนรอบข้าง
หากคุณเป็นใครสักคนที่ไม่น่าสนใจ ก็มีสิทธิ์ถูกมองข้ามไปได้ง่าย ๆ
ฉะนั้น สร้างความประทับใจให้ซึมซับเข้าสู่หัวใจเจ้านายที่แสนดีของคุณ ถึงอย่างไรสุภาษิตก็ยังกล่าวว่า คนทำดีต้องได้ดีเข้าสักวัน
ติดตามอ่านคอลัมน์ "กลยุทธ์พิชิตคนพิชิตงาน" โดย "ดร.สมสิทธิ์ มีแสงนิล" ได้จาก "นิตยสารงานวันนี้"