กสท.ปรับสัดส่วนTVดิจิทัลหวั่นเลื่อนประมูล
พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า การปรับสัดส่วนหมวดหมู่โทรทัศน์ดิจิทัลเพื่อให้บริการธุรกิจใหม่ 24 ช่อง แบ่งเป็นช่องความคมชัดสูง (เอชดี) 7 ช่อง ช่องมาตรฐาน (เอสดี) แยกเป็น รายการเด็ก/ครอบครัว 3 ช่อง รายการข่าว/สาระ 7 ช่อง และรายการวาไรตี้ทั่วไป 7 ช่อง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการสามารถถือครองช่องรายการได้ไม่เกิน 3 ช่องรายการ โดยประมูลประเภทละ 1 ช่องจากจำนวน 4 ประเภทได้แก่ 1.ช่องวาไรตี้เอชดี 2.ช่องวาไรตี้เอสดี 3. ช่องเด็ก/ข่าวสาร 4.ช่องข่าว ทั้งนี้ผู้ประกอบการห้ามถือครองช่องข่าว/สาระและช่องเอชดีสำหรับการปรับลดสัดส่วนนั้น เป็นผลมาจากการทดลองทดสอบเทคนิคการออกอากาศโทรทัศน์ระบบดิจิทัลของช่อง 9 ช่อง 5 ช่อง 11 และช่องไทยพีบีเอส ซึ่งสามารถส่งสัญญาณช่องเอชดี การรับฟังความคิดเห็นที่ทางคณะอนุกรรมการเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์ระบบอะนาล็อกไปสู่ระบบดิจิทัล ที่ผู้ประกอบการสนใจประมูลช่องเอชดี เนื่องจากมีคุณภาพสูงและประสิทธิภาพ รวมทั้งยังรับทราบรายงานผลการศึกษาราคาตั้งต้นการประมูลของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว ให้นำกลับไปดูรายละเอียดอย่างไรก็ตาม ด้าน ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสทช. และ กสท. เปิดเผยว่า คาดว่าการประมูลโทรทัศน์ดิจิทัลต้องเลื่อนออกไปไตรมาส 4 ปี 2556 ถึงปี 2557 เนื่องจากการปรับสัดส่วนช่องธุรกิจ 24 ช่องใหม่ ต้องใช้เวลาเพื่อศึกษาข้อมูลใหม่ นอกจากนี้แนวโน้มที่ผู้ประกอบการรายใหม่จะเข้ามาก็ลดน้อยลงตาม จากที่คาดว่าจะมีผู้เข้าประมูลจำนวน 19 ราย ก็จะเหลือเพียง 14 ราย ดังนั้นเมื่อปรับสัดส่วน ราคาประมูลก็จะถูกปรับเปลี่ยนลดลงอย่างแน่นอน