คลังยืนยันปรับขึ้น VAT เป็น 9% เท่ากับซ้ำเติมประชาชน
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอให้รัฐบาลต้องปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 9% เพื่อนำไปแก้ปัญหาโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ว่าการปรับภาษีมูลค่าเพิ่มย่อมส่งผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ
เพราะจะทำให้ราคาสินค้าและบริหารเพิ่มขึ้น เท่ากับว่าค่าครองชีพแพงขึ้น ซึ่งอาจเป็นการซ้ำเติมประชาชนในภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ การปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 9% ทำให้ GDP ไทยลดลงอย่างน้อย -0.6% ต่อปี อีกทั้งทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 1.5% ต่อปี จากกรณีฐานการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าว ดังนั้น การปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณารอบด้านและดูช่วงเวลาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ฐานะทางการคลังของรัฐบาลในปัจจุบันยังมีความมั่นคงมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาล และเงินคงคลังยังอยู่ในระดับที่เข้มแข็งอีกทั้งภาระหนี้ต่องบประมาณอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศและระดับหนี้สาธารณะยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ