ชัชชาติพร้อมแจงกู้ 2 ลล. ย้ำโปร่งใสยินดีป.ป.ช.สอบ

ชัชชาติพร้อมแจงกู้ 2 ลล. ย้ำโปร่งใสยินดีป.ป.ช.สอบ

ชัชชาติพร้อมแจงกู้ 2 ลล. ย้ำโปร่งใสยินดีป.ป.ช.สอบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล ว่า ได้ชี้แจงตามหลักการ การใช้เงินและการจ่ายหนี้คืนของ พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ  โดยยืนยันว่า เป็นการทำประโยชน์เพื่อประชาชนและประเทศ รัฐบาลไม่ทำในเรื่องที่ไม่ดีอย่างแน่นอน ซึ่งประเทศต้องเดินต่อไป ขณะที่ระบุถึงฝ่ายค้าน ว่า อย่าให้ความกลัวว่ารัฐบาลจะโกง มาหยุดแนวทางที่จะพัฒนาประเทศ  โดยนายกฯและรัฐบาล  พร้อมชี้แจงในการอภิปราย นัดพิเศษ ในการประชุมสภาฯ วันที่ 28-29 มีนาคม นี้ และพร้อมให้การตรวจสอบ หากมีการร้องไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลมีการตรวจสอบหลายขั้นตอน ซึ่งย้ำว่า พ.ร.บ.ดังกล่าว มีความโปร่งใส ขณะเดียวกัน นายวิโรจน์ เปาอินทร์ คณะกรรมการวิปรัฐบาล เปิดเผยด้วยว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุในที่ประชุมว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน อย่างแน่นอน ปธ.ตลท. ชี้ ต่างชาติยังซื้อหุ้นไทยห่วงเงินกู้ 2 ลล.มีรั่ว นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (25 มี.ค.) ซึ่งเปิดทำการเป็นวันแรกของสัปดาห์ โดยมองว่า แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ยังคงมีอยู่ เนื่องจาก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ตลาดหุ้นไทยร่วงลงแรง นักลงทุนต่างชาติก็ยังซื้อ อย่างไรก็ตาม การลงทุนจากนี้ไป นักลงทุนรายย่อยจะต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อหุ้น โดยแนะให้ลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ส่วนข่าวลือที่เกิดขึ้นนั้น ก็อย่าไปฟังมาก  สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทย ยังถือว่าขยายตัวดีต่อเนื่อง ขณะที่ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 1 ปี 2556 ก็คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะเกิดขึ้นนั้น ก็คือ หากรัฐบาลใช้งบประมาณโดยไม่คุ้มค่า ไม่มีประสิทธิภาพ มีการรั่วไหลของงบเกิดขึ้น ก็จะเป็นปัญหาได้ในระยะยาว  นอกจากนี้ นายสมพล กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ต้องจับตามองจากนี้ไปก็คือ ตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือน ซึ่งพบว่ามีอัตราการขยายตัวที่เพิ่มสูงขึ้น จากการใช้จ่ายอย่างเกินตัวของภาคประชาชน ซึ่งแม้ว่าหนี้ ภาคครัวเรือนจะไม่ทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ก็อาจทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ตามมาได้ 'วราเทพ'เชื่อถก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ลล. สภาไม่ล่ม นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรฐมนตรี เปิดเผยผ่านรายการ เจาะข่าวเด่น เปิดประเด็นดัง ว่า การพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 28 และวันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม นี้แน่นอน เนื่องจากเป็นนัดพิเศษ ส่วนเรื่องเวลานั้นยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นช่วงใด เพราะต้องหารือกับ วิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน ก่อน ขณะเดียวกันมั่นใจว่า การพิจารณาร่างดังกล่าวจะไม่มีปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบ เพราะเป็นการหารือนัดพิเศษ ที่มีความแตกต่างจาก พ.ร.บ.อื่นๆ พร้อมยืนยันว่า ร่างเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท มีการดำเนินการตามกฎหมายและผ่านกฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว ส่วนบัญชีแนบท้าย ก็มีการเสนอยุทธศาสตร์ 3 แผน แบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจน จำนวน 300 หน้า และจะแจกสมาชิกทุกคน ในเร็วๆ วันนี้ นอกจากนี้ นายวราเทพ ยังกล่าวว่า โครงการดังกล่าวต่างจากการกู้อื่นๆ เพราะรัฐบาลมีความพร้อม และเตรียมการไว้หมดแล้ว รวมถึง มีรายละเอียดทุกโครงการ มีกระบวนการตรวจสอบเป็นไปตามหลักการณ์ที่ผ่านรัฐสภา ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นร่างประกบนั้น สามารถทำได้ แต่คิดว่าจะนำมาพิจารณาไม่ทันสมัยประชุมนี้ สุรนันทน์โต้อภิสิทธิ์ปัดเลี่ยงตรวจสอบกู้2ลล. นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลว่า รัฐบาลหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และซิกแซกเพื่อโกง จากการเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น ไม่เป็นความจริง รัฐบาลยืนยันว่า การตัดสินใจกู้แทนการจัดสรรงบประมาณปกตินั้น เพื่อให้การลงทุนมีความต่อเนื่อง ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการเมือง ซึ่งการลงทุนดังกล่าว ก็เพื่อจะทดแทนการชะงักของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายสุรนันทน์ ยืนยัน การลงทุนครั้งนี้ไม่เป็นเบี้ยหัวแตกเหมือนโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลที่ผ่านมา เนื่องจากทุกอย่างเป็นไปตามหลักการบริหารเงิน การใช้เงินถูกประเภท และมีผลตอบแทนชัดเจน ทั้งนี้ ขั้นตอนการตรวจสอบร่างกฎหมายดังกล่าว ที่รัฐบาลกำลังจะเสนอสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรนั้น มีกระบวนการที่รับฟังความคิดเห็นของสาธารณะแต่ต้น และยังมีการอธิบายข้อมูลผ่านการจัดนิทรรศการ และในตัวร่างกฎหมายเอง มีบัญชีแนบท้ายเพื่อวางกรอบการลงทุนใน 3 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าทางถนนสู่การขนส่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า, ยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่งไปสู่ศูนย์กลางของภูมิภาคทั่วประเทศและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และ ยุทธศาสตร์พัฒนาและปรับปรุงระบบขนส่งเพื่อยกระดับความคล่องตัวด้วย ซึ่งทั้งหมดแตกต่างกับ ไทยเข้มแข็งของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ที่ไม่มียุทธศาสตร์ชัดเจน มติวิป ให้แต่ละฝ่าย ถกร่าง 2 ลล. 12 ช.ม.นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม มาชี้แจงถึงการออกพระราชบัญญัติเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท และการใช้งบประมาณดังกล่าว ในการอภิปราย วันที่ 28-29 มีนาคมนี้ โดยวิปทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะให้ใช้เวลาฝ่ายละ 12 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งรวมถึงเวลาในการประท้วงของแต่ละฝ่ายด้วย ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นถึงการประท้วงที่ต้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ชี้แจงด้วยเหตุผล ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณางบประมาณดังกล่าวเสร็จ ภายใน 2 วัน เพราะเป็นการพิจารณางบประมาณของกระทรวงเดียว พร้อมมั่นใจว่า จะผ่านการเห็นชอบไปได้ด้วยดี แม้ว่าจะมีกลุ่มเคลื่อนไหวคัดค้านนอกสภาก็ตาม ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้  ทั้งนี้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา จะต้องเลื่อนไปจนกว่าจะพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ เสร็จสิ้นก่อน โดยคาดว่าจะสามารถบรรจุร่างดังกล่าวได้ ภายในต้นเมษายน คำนูญเผยกู้2ลล.ล้มล้างระบบจ่ายงบประมาณนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวหารือในที่ประชุมวุฒิสภา ว่า ร่าง พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ 2 ล้านล้านบาทนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออก พ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะ มีลักษณะขัดต่อ พ.ร.บ.ดังกล่าว อีกทั้ง ยังล้มล้างระบบการจ่ายงบประมาณ และอาจขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาตรา 159, มาตรา 170 ดังนั้น กฎหมายลักษณะนี้ ไม่สมควรเข้าสู่การพิจารณาขณะที่ ทางด้าน น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมีโครงการประชานิยม คือ โครงการรถคันแรก แต่ขณะนี้กลับสร้างระบบราง มองว่าขัดแย้งกัน จึงอยากฝากรัฐบาล อย่าคิดที่จะทำ แต่ไม่รู้วิธีการใช้หนี้ หากหนี้แตะเพดาน จะถามหาความรับผิดชอบจากส่วนใด อดีต รมว.คลัง รุมสับเละ พ.ร.บ.เงินกู้ 2ลล.Team-Korn Chatikavanij Page ได้รวบรวมความคิดเห็นต่อกรณีการออก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท โดยมีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึง 4 คน โดยเนื้อหาระบุว่า 1.ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "เป็นการออก พ.ร.บ.แบบหลวมๆ ไม่มีความละเอียดรอบคอบ ไม่รัดกุม มีแต่ชื่อโครงการ แต่ไม่มีรายละเอียดว่าลงทุนได้จริงหรือไม่"2.ทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง รัฐบาลชวลิต ระบุว่า "ไม่ควรใช้เงินกู้ในการลงทุนก้อนโตขนาดนี้ การลงทุนควรมาจากรายได้ก่อนอันดับแรก เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลัง ไม่ให้หนี้สาธารณะเกิน 50% ของ GDP"3.ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีต รมว.คลัง รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ ระบุว่า "การกู้เงินหลายโครงการของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทั้ง 2 ล้านล้าน จำนำข้าว จะทำให้หนี้สูงถึง 65% ในปี 2562 เกินกรอบความยั่งยืนทางการคลัง"4.กรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง รัฐบาลอภิสิทธิ์ ชี้ว่า "พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะกู้ใน 7 ปี ปีละ 3 แสนล้าน สามารถจัดสรรในงบประมาณปกติได้ โดยไม่ต้องออกกฎหมายเงินกู้นอกระบบงบประมาณ ซึ่งการใช้เงินกู้นอกงบ เป็นการตัดตอนการพิจารณาโครงการของหน่วยงานตรวจสอบ ในขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มัวแต่ทะเลาะกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย และไม่มีการชี้แจงที่ตรงประเด็น และตอบคำถามอดีต รมว.คลัง หลายท่านนี้ได้เลย" 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook