หลังเลือกตั้งสหรัฐฯ เศรษฐกิจไทยไปทางไหน เมื่อ "ทรัมป์-ไบเดน" สูสี

วินาทีแห่งการรชี้ชะตาผู้นำสหรัฐอเมริกาคนใหม่ระหว่าง "โดนัลด์ ทรัมป์" จากพรรคริพับลิกัน และ "โจ ไบเดน" จากพรรคพรรคเดโมแครต ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 63 ที่ผ่านมาทั้ง 2 พรรคได้ชูนโยบายต่างๆ เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากชาวมะกันไว้มากมาย ทั้งเรื่องภาษี, ระบบประกันสุขภาพ, มาตรการเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย, สิ่งแวดล้อม รวมถึงต่างประเทศ และไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไปก็จะสะท้อนถึงภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงเศรษฐกิจโลกไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศไทยเอง

หลายคนอาจสงสัยว่า หาก "โดนัลด์ ทรัมป์" หรือ "โจ ไบเดน" ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป จะเป็นแรง "หนุน" หรือแรง "ถ่วง" เศรษฐกิจไทยหลังจากนี้กันแน่ Sanook Money ได้ข้อมูลดีๆ จากศูนย์วิจัยกสิกรไทยมาฝากกัน

ส่งออกไทยต้องลุ้น!

  โจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งและได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะช่วยหนุนการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ ในปี 64 กลับมาดีขึ้นที่ 10-12% มูลค่าการส่งออกที่ 36,700-37,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

  โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งและได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐญ สมัยที่ 2 การส่งออกของไทยจะโตต่ำที่ 5.0% มูลค่าการส่งออก 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่อง 3 ชนิดสินค้าไทย "รุ่ง" หรือ "ร่วง"

สำหรับธุรกิจและการส่งออกของไทยที่มีโอกาสทำตลาดได้มากขึ้นหลังเลือกตั้งสหรัฐ แบ่งได้ 3 ประเภท

• อาหารไทย "ท็อปฟอร์ม" ไม่ว่า "ทรัมป์-ไบเดน" จะได้เป็นผู้นำสหรัฐฯ  
  • สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีนี้ ไม่ว่า "ทรัมป์" หรือ "ไบเดน" จะขึ้นมาคุมทัพอินทรีก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร

• "โจ ไบเดน" แต้มต่อ "ทรัมป์" หนุนไทยส่งออกสินค้าฟื้นตัว ของฟุ่มเฟือยคึกคัก
  
  • สินค้าฟุ่มเฟือย : อัญมณี, เครื่องประดับ, ยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ ไทยจะได้ประโยชน์จากนโยบาย "โจ ไบเดน" มากกว่า
  • สินค้าขั้นกลางเพื่อการผลิตของไทย : ได้อานิสงส์ 2 ทาง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายของ "โจ ไบเดน" ที่เน้นการลงทุนโครงการพื้นฐาน, พลังงานสะอาด, ขยายเครือข่าย 5G, ความต้องการสินค้าเหล็กและผลิตภัณฑ์, แผงโซล่าเซลล์ และไดโอด รวมถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์

สรุป นโยบายจากพรรคเดโมแครตทำสินค้าไทยได้รับอานิสงส์ทางอ้อมผ่านกำลังซื้อของสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวทำให้ต้องการสินค้าอุปโภคในทุกหมวดกลับมาเร็วขึ้น รวมถึงหนุนความต้องการสินค้าขั้นกลางของไทยให้ส่งออกไปตอบโจทย์การผลิตในประเทศต่างๆ เพื่อส่งสินค้าไปยังปลายทางผู้บริโภคในสหรัฐฯ