ท่าช้าง จับมือ RS Mall และ BIS อีคอมเมิร์ซ ยักษ์ใหญ่ ตั้งเป้าโต 30%
ใบพัด- อธิษฐ์พัชร นิพิษฐาภัทร กรรมการผู้จัดการ บริษัทท่าช้างโกลบอล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟท่าช้าง กล่าวว่า ปี 2564 บริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดขายช่วง 2 เดือนแรกของปี ส่วนหนึ่งมาจากทีมการตลาดออนไลน์ที่แข็งแกร่ง และได้อานิสงค์จากพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล ที่หันมาใช้จ่ายออนไลน์เติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 43% ในปีที่ผ่านมา จึงทำให้กลยุทธ์ทางธุรกิจของท่าช้างในปีนี้ ยังคงเน้น รุกตลาดออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งได้พันธมิตรใหม่เป็น 2 ยักษ์ใหญ่ ทั้ง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS Mall ซึ่งมีนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นกุนซือใหญ่หยิบจับอะไรเป็นรุ่ง และ บริษัท บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ช้อปปิ้ง จำกัด หรือ BIS โดยมีนายอิศรา ศรีศิวารา CEO คนเก่ง นั่งแท่นบริหารนำทคโนโลยีระดับโลกมาเสริมทัพธุรกิจ ซึ่งทั้ง 2 บริษัท เข้ามารุกตลาดค้าปลีกผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ และคัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเข้าร่วมแพลตฟอร์มเท่านั้น ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าให้กับแบรนด์ท่าช้างได้ราว 10-20% โดยปี 2564 ตั้งเป้าเติบโตสูงสุดที่ 30%
นายอธิษฐ์พัชร ยังกล่าวด้วยว่า ปีนี้ ทางบริษัทเน้นกลยุทธ์เชิงรุกด้านการตลาด โหมประชาสัมพันธ์ แบรนด์ท่าช้าง อย่างต่อเนื่อง ทั้งจัดกิจกรรม challenge “กาแฟท่าช้าง ท่าไหน ท่าอะไรที่เป็นคุณ” ร่วมลุ้นจี้ทองคำ โดยมีเหล่าบรรดานักเต้น TickTok และ สาวกใน Facebook ส่งคลิปร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก และ ยังมีอีกหลายกิจกรรม อาทิ ออกบูธ ตามห้างสรรพสินค้า รวมถึงออกรายการโทรทัศน์ล่าสุดเพิ่งไปออกรายการทาง RS Mall เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางสร้างรายได้ให้กับทุกคนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์บนมือถืออีกมากมาย
ทั้งนี้ ยังได้ 2 หนุ่มหล่อ GMO (Global Marketing Officer) จากบริษัท BIS นายวิชยุตม์ ลิ่มรัตนะมงคล ดีกรี นักแสดงดาวรุ่ง ช่อง 3 และ นายวรัญญู สุวรรณ ดีกรี นักร้อง นายแบบ ซึ่งที่มีความรู้ด้าน digital marketing มาร่วมงานช่วยโปรโมทแบรนด์ท่าช้าง บนแพลตฟอร์มของ BIS นอกจากนี้ ยังเตรียมแผนโปรโมท กาแฟ แบรนด์ท่าช้าง ในต่างประเทศ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นกระทรวงที่ช่วยเหลือและผลักดัน ผู้ประกอบการไทยที่มีความพร้อมเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ ผ่านฑูตพาณิชย์ที่ประจำการอยู่ทุกทวีปทั่วโลกโดยปีนี้แบรนด์ท่าช้าง มีแผนรุกกลุ่มประเทศ เออีซี ก่อน หากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คลีคลายลง ก็พร้อมดำเนินการตามแผนทันที
ทั้งนี้ ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุ ประชากรไทยมีการเข้าถึงบัญชี Mobile Banking มากถึง 67,710,451 บัญชี (ข้อมูล ณ พ.ย. 2563) และมีจำนวนธุรกรรมใน 11 เดือน (ม.ค. – พ.ย. 2563) 8,239.75 ล้านครั้ง หรือ คิดเป็นมูลค่าธุรกรรม 30.50 ล้านล้านบาท การทำธุรกรรมออนไลน์กลายเป็นช่องทางสำคัญในการใช้จ่ายประจำวัน สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนในปัจจุบันที่ลดการเดินทางออกนอกบ้าน เลี่ยงจับเงินสด และใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลด้านบวกกับตลาดอีคอมเมิร์ซเมืองไทย ยังคงเป็นธุรกิจดาวรุ่งโตแบบก้าวกระโดดต่อไป