Grass Ideas พื้นที่สีเขียวบนโลกออนไลน์

Grass Ideas พื้นที่สีเขียวบนโลกออนไลน์

Grass Ideas พื้นที่สีเขียวบนโลกออนไลน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นับวันไลฟ์สไตล์ของคนเมืองหลวงก็ยิ่งห่างไกลพื้นที่สีเขียวมากขึ้น หันไปทางไหนก็เจอแต่พื้นคอนกรีต ด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่ในเขตเมืองที่มีประชากรหนาแน่นจนแทบไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับการปลูกต้นไม้ "หญ้าเทียม"

จึงอาจตอบโจทย์ผู้ที่รักธรรมชาติ แต่ไม่มีเวลาดูแลรักษา เพราะการมีพื้นที่สีเขียวนั้นช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากวิถีชีวิตของคนเมืองที่เร่งรีบตั้งแต่เช้าจรดเย็น

อัจฉรียา รักมิตร หรือ คุณก้อย เจ้าของร้าน http://www.grassidea.com เล่าถึงจุดเริ่มต้นของร้านว่า เดิมทีนั้นทำงานบริษัทมาก่อน แต่ยังมีฝันที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งในขณะนั้นยังไม่รู้ใจตัวเองว่าอยากทำอะไร จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อค้นหาตัวเอง ประจวบเหมาะกับต้องการจัดสวนที่บ้าน

จึงมีความสนใจศึกษาข้อมูลต่างๆในการจัดสวนที่ไม่ต้องใช้เวลาในการดูแลรักษา เป็นสาเหตุให้มาเกิดการทำธุรกิจหญ้าเทียม เนื่องจากเมื่อ 2 ปีที่แล้วตลาดหญ้าเทียมยังมีคู่แข่งน้อย ส่วนมากจะเป็นหญ้าเทียมสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ อย่างเช่น หญ้าเทียมสำหรับสนามฟุตบอลที่ต้องสั่งมาจากทวีปยุโรปทำให้ราคาแพง จึงเป็นสาเหตุให้คุณก้อยเลือกหญ้าเทียมที่มีคุณภาพสูงจากประเทศจีนและหญ้าที่ผลิตในประเทศไทย เพื่อใช้ในการตกแต่งโดยเฉพาะงานประเภท แลนสเคป (Landscape) ตกแต่งภายใน และตกแต่งภายนอก สำหรับตกแต่งบ้าน คอนโด หรือสำนักงาน


เริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ "ต้องโปรโมต"

คุณก้อย ยังเล่าอีกว่า มองการขายในช่องทางออนไลน์ตั้งแต่เริ่มต้น เพราะมองเห็นปัญหาของการเปิดหน้าร้านอย่างแรกเลยคือ ปัญหาด้านโลเคชั่น เพราะยิ่งเป็นตำแหน่งที่ดีมากเท่าไหร่ ค่าเช่าที่ก็จะสูงขึ้นเท่านั้น อีกทั้งค่าจ้างลูกจ้าง ที่เป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ต้องจ่ายออกไป โดยไม่รู้ว่าเดือนนั้นสินค้าจะขายได้หรือไม่ จึงเลือกการขายแบบออนไลน์ จากนั้นก็เริ่มศึกษา เข้าฝังสัมนาการโปรโมตสินค้าผ่านทางออนไลน์

ในส่วนของการโปรโมตร้านค้านั้นคุณก้อยเน้นการทำ Google AdWords และ SEO เป็นหลัก เพราะมองว่าสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง เฟสบุ๊คหรืออินสตาแกรมนั้นอาจไม่เหมาะกับสินค้าหญ้าเทียม เพราะหญ้าเทียมไม่เหมือนสินค้าแฟชั่นอย่างกระเป๋า รองเท้า หรือเสื้อผ้าที่ซื้อเปลี่ยนได้ทันทีตามกระแสแฟชั่น เป็นสินค้าที่ต้องผ่านการคิดทบทวน ดังนั้นพฤติกรรมลูกค้าส่วนมากที่ต้องการซื้อสินค้าประเภทตกแต่งบ้านอย่างหญ้าเทียม จะเจาะจงและค้นหาทาง Google เป็นส่วนใหญ่

"ทีแรกเราตั้งใจจะประชาสัมพันธ์สินค้าของร้านอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยากรู้ว่าถ้าหากเราเปิดเว็บไซต์อย่างเดียว ไม่ใช้เครื่องมือโปรโมตใดๆทั้งสิ้น เราจะขายสินค้าได้ไหม ซึ่งคำตอบหลังจากทดลองอยู่ 1 เดือนคือ "ไม่" เราไม่สามารถขายสินค้าได้เลยหากไม่มีการโปรโมตที่ดี และหลังจากศึกษาอยู่นาน ก็ตัดสินใจใช้การโปรโมตสินค้าผ่าน Google AdWords ซึ่งผลตอบรับทำให้เรารู้ว่ามันคุ้มกับเงินที่เราจ่ายไปหลายเท่า เพราะการทำ Google AdWords นั้นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณของเรา ที่สามารถเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ แต่ถึงอย่างนั้น AdWords บางคำก็มีราคาสูง จึงทำ SEO ควบคู่กันไป เพื่อให้เงินที่ลงทุนเกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับ SEO จึงเลือกคำที่เป็น Top Search อย่างคำว่า "หญ้าเทียม" ส่วนคำอื่นๆก็ Adwords ต่อไป"


ประสบความสำเร็จเพราะสื่อสารโดยตรง


การขายหญ้าเทียมบนระบบออนไลน์นั้นมีอุปสรรคอยู่บ้าง ด้วยความที่หญ้าเทียมมีหลายชนิด แตกต่างกันทั้งวัสดุและความยาวของหญ้า หรือสีของรูปภาพในเว็บไซต์อาจไม่ตรงตามของจริง จึงอาจเกิดปัญหา อาทิ ปัญหาจากการนำไปใช้ ถ้าหากลูกค้าเลือกเอาหญ้าขนสั้นไปตกแต่งภายใน ก็จะเกิดปัญหาตรงเห็นรอยต่อของหญ้าเพราะไม่มีขนปิด ทางร้านจึงจำเป็นต้องให้คำปรึกษา แนะนำข้อดีข้อเสียของหญ้าแต่ละประเภท เพื่อให้ลูกค้าเกิดไอเดียสร้างสรรค์ว่าหญ้าเทียมอาจไม่ได้ใช้แค่ปูพื้น แต่ยังสามารถนำไปตกแต่งภายในหรือส่วนอื่นๆของบ้านได้ด้วย

"กลุ่มลูกค้าของร้านจะมีทั้งบริษัท บุคคลทั่วไป และสถาปนิก ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีความต้องการที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องถามสถาพโครงสร้างหรือสถานที่ๆจะนำไปวาง รวมทั้งให้คำปรึกษาในเรื่องความเหมาะสมของสินค้ากับจุดประสงค์การใช้งาน เพื่อจะได้เข้าใจความต้องการของลูกค้ามากขึ้น นอกจากนั้นเรายังสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าโดยการรับประกันสินค้า 3 ปี หากสีซีดหรือหญ้าหลุด เราก็จะมีบริการเปลี่ยนให้ใหม่"


บริการด้วยความจริงใจ เพื่อต่อยอดการขายในอนาคต
ในอนาคต ทางร้านก็ยังจะมุ่งเน้นเกี่ยวกับงานตกแต่งเป็นหลัก เพราะตลาดการตกแต่งสวนนั้นยังสามารถเติบโตได้อีก แต่อาจจะเพิ่มผลิตภัณธ์สำเร็จรูป อาทิ หญ้าเทียมแบบสำเร็จรูป หรือเฟอร์นิเจอร์หน้าเทียม เพราะเราต้องการให้คนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
"เว็บไซต์ต้องมีข้อมูลรายละเอียดที่ครบถ้วน เพราะลูกค้าไม่สามารถสัมผัสตัวสินค้าจริงๆได้ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนนั้นส่งผลให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือ ลูกค้าเกิดความมั่นใจ ที่สำคัญต้องมีความจริงใจเป็นหลักเพราะอาจทำให้เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปากได้ นอกจากนั้นก็ควรโปรโมตร้านตามช่องทางที่เหมาะสมกับสินค้าเพื่อเป็นการใช้ต้นทุนให้คุ้มค่าที่สุด" คุณก้อย ฝากถึงผู้ที่สนใจเริ่มธุรกิจออนไลน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook