คอ"เหล้า-เบียร์"เสียววาบคลังปรับเพดานภาษี

กระทรวงการคลังซุ่มคุยกรมสรรพสามิต เดินหน้าปรับเพิ่มเพดานภาษีสรรพสามิต เล็งขยับ "เหล้า-เบียร์" อีก 10% พร้อมเปิดแผนปรับภาษีน้ำเมาที่ยังไม่เต็มเพดาน

คาดเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในปลายพฤษภาคมนี้ หวังช่วยขยายฐานจัดเก็บภาษี กวาดรายได้เข้าคลัง ด้านค่ายน้ำเมานอก-สิงห์ คอร์ปอเรชั่น ร้องจ๊าก หวั่นกระทบทำตลาดชะลอตัว

แหล่ง ข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาปรับเพดานภาษีสรรพสามิตสุราและเบียร์ เนื่องจากปัจจุบันบางรายการมีการเก็บภาษีในอัตราที่เต็มเพดานแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ นอกจากจะปรับขยายเพดานแล้ว ยังอาจพิจารณาปรับเพิ่มอัตราภาษีบางรายการที่ยังมีช่องว่างเหลือไปในคราว เดียวกันด้วย

"ตอนนี้ รมว.คลังคุยกับกรมสรรพสามิตอยู่ คาดว่าจะสามารถเสนอ ครม.ได้ในช่วงปลายเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งเรื่องนี้ทางกรมสรรพสามิตเสนอมานานแล้ว แต่การจะปรับต้องให้ รมว.คลังเห็นชอบในช่วงเวลาที่เหมาะสม" แหล่งข่าวกล่าว

ปัจจุบัน ภาษีที่มีการจัดเก็บเต็มเพดานแล้วประกอบด้วยสุราแช่ ได้แก่ 1.เบียร์ เก็บตามมูลค่าเต็มเพดาน 60% และเก็บตามปริมาณเต็มเพดาน 100 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 2.ไวน์ สปาร์กกลิ้งไวน์ที่ทำจากองุ่น เก็บตามมูลค่าเต็มเพดาน 60% และตามปริมาณเต็มเพดาน 100 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์

ส่วน สุรากลั่นที่เก็บเต็มเพดาน ได้แก่ สุราปรุงพิเศษ เก็บตามมูลค่าเต็มเพดาน 50% และตามปริมาณเต็มเพดาน 400 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ สุราพิเศษ (วิสกี้, บรั่นดี) เก็บตามมูลค่าเต็มเพดาน 50% และตามปริมาณเต็มเพดาน 400 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์

ขณะที่สุราขาว เก็บตามมูลค่าเต็มเพดาน 50% แต่ตามปริมาณยังเก็บที่ 150 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ จากเพดานที่ 400 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เช่นเดียวกับสุราผสม ที่เก็บตามมูลค่าเต็มเพดาน 50% แต่ตามปริมาณยังเก็บที่ 350 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ จากเพดานที่ 400 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับการพิจารณาขยายเพดานนั้น อาจจะขยายอีก 10% และต้องแก้ไขกฎหมาย คือ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 โดยต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ และเสนอรัฐสภาแก้ไขกฎหมาย แต่ส่วนการปรับอัตราการจัดเก็บบางรายการที่มีช่องว่างเหลือจะขยับขึ้นเล็ก น้อย

ด้านนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" โดยยอมรับว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาปรับภาษีสรรพสามิตบางรายการ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเป็นสินค้าชนิดใด แต่ยืนยันว่าการปรับภาษีครั้งนี้จะไม่สร้างผลกระทบกับประชาชนแน่นอน และไม่ใช่เป็นการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่เคยปรับลดลงไปก่อนหน้านี้

ขณะ ที่แหล่งข่าวจากบริษัทผู้แทนจำหน่ายสุรา-ไวน์ต่างประเทศรายใหญ่ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ขณะนี้คงยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า การปรับเพดานภาษีดังกล่าวจะกระทบกับตลาดมากน้อยเพียงใด เนื่องจากเป็นเพียงการปรับเพดานภาษีไว้ก่อนเท่านั้น หรือหากจะประกาศขึ้นภาษีรายการใดก็คงต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าปรับ ขึ้นมากน้อยแค่ไหน

"สิ่งที่รัฐบาลหรือกระทรวงการคลังจะต้องพิจารณา อีกอย่างหนึ่งก็คือ ตอนนี้ไทยอยู่ระหว่างการเจรจาเอฟทีเอกับสหภาพยุโรป ขณะที่เราต้องการให้ยุโรปลดภาษีนำเข้าให้น้อยลง แต่อีกด้านหนึ่งก็จะเก็บภาษีสินค้าจากยุโรปเพิ่ม ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลเป็นสำคัญ"

แหล่งข่าวจากบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด แสดงความเห็นว่า การปรับเพดานภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องที่มีกระแสข่าวมาอย่างต่อ เนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และเข้าใจได้ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะหารายได้เข้ามาเพิ่ม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า การปรับขึ้นภาษีแต่ละครั้งก็จะทำให้ตลาดชะลอตัวลงระยะหนึ่ง

ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในช่วง 7 เดือน (ต.ค. 2555-เม.ย. 2556) สามารถจัดเก็บรายได้รวม 268,528 ล้านบาท สูงกว่าเป้า 24,462 ล้านบาท หรือ 10% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 27.0% โดยภาษีรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าเป้า 28,534 ล้านบาท หรือ 39.6% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 90.4% เป็นผลจากโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกเป็นสำคัญ ขณะที่ภาษีเบียร์และภาษียาสูบจัดเก็บได้สูงกว่าเป้า 3,910 ล้านบาท และ 3,800 ล้านบาท หรือ 9.7% และ 10.9% ตามลำดับ สืบเนื่องจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบและสุรา เมื่อเดือน ส.ค. 2555