เคล็ดลับปลูกมะละกอยักษ์ สร้างรายได้เดือนละมากกว่า 100,000 บาท

เคล็ดลับปลูกมะละกอยักษ์ สร้างรายได้เดือนละมากกว่า 100,000 บาท

เคล็ดลับปลูกมะละกอยักษ์ สร้างรายได้เดือนละมากกว่า 100,000 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยูทูปเบอร์ชื่อดัง "เอิร์ธ สดชื่น" เจ้าของช่อง Tagple ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสัมภาษณ์ คุณจ๋า-จารุวรรณ สิงห์ทอง เจ้าของสวนต้อมจ๋ามะละกอฟาร์ม ถึงวิธีการปลูกและเคล็ดลับที่จะทำให้มะละกอใหญ่ ยาว ดก สร้างรายได้หลักแสนบาท ผ่านซีรี่ส์โคราชตอนที่ 1 และตอนที่ 5 โดยคุณจ๋าได้ทดลองคิดค้นสูตร และทดลองบนพื้นที่ 5 ไร่ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้เมล็ดพันธุ์แขกนวลศรีสะเกษ เป็นพันธุกรรมท้องถิ่นปลอด GMO จนสามารถเนรมิตต้นมะละกอที่ให้ผลผลิตขายได้ในราคามากถึง 50,000 บาท ต่อ 1 ต้น สามารถขายได้ทุกส่วน ที่สำคัญเมล็ดพันธุ์ที่คุณจ๋าเนรมิตขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอเองนั้นขายกิโลกรัมละ 13,000-15,000 บาท เลยทีเดียว หากใครมีพื้นที่ 1 ไร่ ก็สามารถใช้เมล็ดพันธุ์แค่ครึ่งขีด หรือ 400 บาท เท่านั้น ถือว่าใช้เงินลงทุนไม่เยอะเลย ส่วนขั้นตอนการเพาะปลูกไปจนถึงการดูแลมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กัน

ขั้นตอนเพาะกล้ามะละกอ

โดยเริ่มตั้งแต่การเพาะกล้ามะละกอ ด้วยการนำถุุงข้าวแกงพลาสติกมาฉลุเป็นรูให้ทั่วเพื่อให้น้ำระบาย ป้องกันปัญหาน้ำขังในมะละกอที่จะส่งผลให้เน่าและเหลืองได้ เว้นปากถุงไว้ราว 2 เซนติเมตร นำดินมาร่อนเพื่อให้น้ำซึมลงดินง่ายขึ้นอีกทั้งช่วยให้รากขยายตัวเร็วขึ้น จากนั้นใส่ดินลงในถุง ใช้นิ้วจิ้มดินทำหลุมเพาะ และหย่อนเมล็ดมะละกอลงไป 4 เมล็ดต่อ 1 ถุง ปาดดินปิดเมล็ดเบาๆ ใช้สเปรย์รดน้ำให้เป็นละอองเพื่อไม่ให้เมล็ดกระเด็นออก ทุกเช้า-เย็น ใช้เวลาราว 7-8 วัน ระหว่างนั้นรดใช้พอวันละครั้ง ซึ่งการเพาะกล้ามะละกอนั้นจะใช้เวลาราว 1 เดือนครึ่ง หรือ 45 วัน เพื่อให้ต้นกล้ามีใบ 16-18 ใบก็นำลงแปลงปลูก

ทำแปลงปลูกมะละกอ

สำหรับการนำต้นกล้ามะละกอลงแปลงปลูกจะต้องมีระยะห่าง 3.2 x 3.2 เมตร ต้องยกร่องให้สูงประมาณ 1 ศอก หลุมลึกครึ่งเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมี สูตร 16:16:16 อัตราประมาณหลุมละ 1 ช้อนแกง จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้วทับบนปุ๋ยเคมีอีกที นำต้นกล้ามะละกอปลูกในหลุม กลบแค่รากด้วยดินและปุ๋ยหมัก ไม่ต้องถมโคนมะละกอเพราะจะทำให้เน่า

ขั้นตอนการดูแลมะละกอ

ใช้การรดน้ำแบบเทปน้ำพุ่ง หรือหยดน้ำ หากมีทุนทรัพย์สามารถใช้ระบบสปริงเกอร์ได้ เพราะการในน้ำในลักษณะนี้จะช่วยให้โดนช่อดอก ลดปัญหาดอกร่วง ช่วยให้ติดดอกง่าย ที่สำคัญการให้น้ำควรดูสภาพอากาศด้วย สามารถให้วันละครึ่งหรือวันเว้นวันก็ได้ และไฮไลท์ของการบำรุงต้นมะละกอคือการใช้จุลินทรีย์สงเคราะห์แสง ที่มีส่วนผสมของน้ำเปล่า, ไข่ไก่, ผงชูรส, น้ำปลา ผสมให้เข้ากัน และผ่านการหมักเป็นเวลา 5 วัน จากนั้นนำจุลินทรีย์มาใช้ในปริมาณ 750 ซีซี ต่อน้ำ 30 ลิตร ฉีดพ่นช่วงเช้าใช้ได้ 10 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์เฉพาะบริเวณดอก

ส่วนการให้ปุ๋ยนั้นควรให้ตามช่วงอายุของมะละกอ ให้โรยปุ๋ยรอบๆ ต้นตามทรงพุ่มของใบประมาณ 1.5-2 เมตร และรักษาสวนมะละกอให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืช ที่สำคัญต้องหมั่นใส่ใจดูแล และสำรวจต้นมะละกออย่างสม่ำเสมอทุกครั้ง

ทั้งนี้ ราคามะละกอก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาลรวมถึงสถานการณ์ราคาในท้องตลาดด้วยเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook