คลังระงับสิทธิร้านค้าร่วมเราชนะ 7 ราย หลังพบแหกกฏเงื่อนไขโครงการฯ
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ผิดเงื่อนไขในโครงการเราชนะว่า ขณะนี้ได้ระงับสิทธิชั่วคราวกับผู้ประกอบการจำนวน 7 ราย จากที่ได้มีการระงับสิทธิผู้ประกอบการร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 2,905 ราย เนื่องจากพบการทำธุรกรรมที่เข้าข่ายผิดปกติ เช่น รับแลกวงเงินเป็นเงินสด เป็นต้น
กระทรวงการคลังจึงขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งเบาะแสของผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว และขอเรียนว่า กระทรวงการคลังจะเข้มงวดในการติดตามตรวจสอบประชาชนและผู้ประกอบการที่กระทำการเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการอย่างใกล้ชิด โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ ขอความร่วมมือ จากประชาชนและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการของกระทรวงการคลังปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของแต่ละโครงการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการหรือมาตรการอื่นของรัฐในอนาคต และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับผู้ประกอบการที่ถูกระงับสิทธิ์ชั่วคราวการเข้าร่วมโครงการในวันที่ 20 พ.ค. 64 จำนวน 7 ราย ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงมายังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (โครงการเราชนะ) ภายในวันที่ 4 มิ.ย. 64 ตามข้อความแนะนำที่ปรากฏขึ้นในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว กระทรวงการคลัง
จะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ว่าด้วยวิธีการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงและเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการเราชนะต่อไป
สำหรับความคืบหน้าการใช้จ่ายสิทธิในโครงการเราชนะ ณ วันที่ 20 พ.ค. 64 พบว่ามีจำนวนผู้ได้รับสิทธิเราชนะรวมทั้งสิ้น 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 205,987 ล้านบาท และมีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ ที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์เดิม จำนวน 7,000 บาท แล้ว จำนวน 25.6 ล้านคน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน จำนวน 13.7 ล้านคน มียอดใช้จ่ายสะสม 73,965 ล้านบาท
- ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง (คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน) และผู้ผ่านเกณฑ์ลงทะเบียนเราชนะ จำนวน 16.8 ล้านคน มียอดการใช้จ่ายจำนวน 116,315 ล้านบาท
- ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ จำนวน 2.4 ล้านคน มียอดการใช้จ่ายสะสม 15,707 ล้านบาท