เครื่องประดับ "หิน" ธุรกิจทำ "เงิน"
นางสาวเมสินี เทพดา เจ้าของธุรกิจเครื่องประดับลูกปัด หินสี ทั้งขายอุปกรณ์ และขายส่งเครื่องประดับสำเร็จรูปอยู่ที่เชียงใหม่ เจ้าตัวมีหน้าร้านอยู่ที่กาดหลวง เชียงใหม่ ทั้งยังเปิดหน้าร้านบนเว็บไซต์ ขายสินค้า โดยแยกเป็น 3 เว็บไซต์
คือ www.lookpud.com, www.thaibeading.com และ www.prily.com รวมถึงหน้าแฟนเพจอย่าง www.facebook.com/prilyhandmade ที่มีคนมากดไลก์ถึง 11,000 คน
การที่เปิดเว็บไซต์มากถึง 3 เว็บ และอีก 1 หน้าแฟนเพจ คุณเมให้เหตุผลว่า แม้เฟซบุ๊กจะช่วยในการสร้างลูกค้า และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น มีความเรียลไทม์ ถาม-ตอบทันทีได้มากกว่า แต่เธอมองว่ามันไม่ยั่งยืน เปรียบได้กับเช่าพื้นที่ห้าง ขณะที่เว็บไซต์นั้น เท่ากับการซื้อตึก กระแสจะไปจะมาอย่างไรเว็บไซต์ก็ยังอยู่
ส่วนการเปิด 3 เว็บไซต์นั้น มาจากการที่เธอต้องการแบ่งกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนที่สุด คือ www.lookpud.com จะเป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ซื้ออุปกรณ์ไปทำขายเอง, www.thaibeading.com จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้ออุปกรณ์ไปทำขายเองเช่นกัน แต่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่หน่อย เน้นสินค้าที่เป็นแนวหินสีต่าง ๆ รวมถึงกลุ่มที่คอยขาย หาลูกค้า หาออร์เดอร์ให้ และ www.prily.com เป็นเว็บที่ทางร้านขายสินค้าสำเร็จเลย โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะรู้จักจากทางเฟซบุ๊ก แต่คุณเมจะบอกให้ลูกค้าสั่งซื้อทางเว็บไซต์ เพราะการจัดการที่เป็นระบบมากกว่า
"ตั้งแต่เปิดเฟซบุ๊ก 3 ปีที่แล้ว มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 10% สร้างรายได้หลักหมื่นต่อเดือน โดย 80% เป็นลูกค้ากลุ่มที่ซื้ออุปกรณ์ เช่น ลูกปัด หินสีต่าง ๆ ราคาเริ่มตั้งแต่ 5 บาทถึง 500 บาท ส่วนอีก 20% เป็นสินค้าสำเร็จรูป ราคาตั้งแต่ 100-1,000 บาท การออกแบบจะเน้นความหมาย ความเป็นมงคลของหินชนิดต่าง ๆ มากกว่าจะตามเทรนด์ จากเดิมที่ทางร้านมีรายได้จากร้านค้าที่กาดหลวงราว ๆ 80% ขณะนี้เหลือราว ๆ 40% โดยยอดสั่งซื้อเริ่มมาที่การซื้อผ่านเว็บไซต์ เพราะสะดวก ประหยัดค่าใช้จ่ายลูกค้า" คุณเมสินีกล่าว
นอกจากการขายสินค้าเกี่ยวกับเครื่องประดับแล้ว ยังเปิดเว็บไซต์สำหรับขายสินค้าที่เป็นของฝากของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย ทั้งแคบหมู น้ำพริกหนุ่ม โดยใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า www.kadlaung.com เพราะเธอมองเห็นว่า โดยปกติขายสินค้าอยู่ในกาดหลวงอยู่แล้ว สินค้าของฝากก็มีอยู่แล้วไม่ต้องไปไหนไกล เพียงแค่รับออร์เดอร์มา แล้ววิ่งไปซื้อ แล้วส่งสินค้าไป เรียกว่าโอกาสจ่ออยู่ตรงหน้าไม่คว้าไว้ก็แย่แล้ว
สวยมาก! รีสอร์ทลงทุน 60 ล้านของ "ภูริ หิรัญพฤกษ์"
ศรีพันวา รีสอร์ท 6,000 ล้านของตระกูล "อิสสระ"