ค่าตัวสมาชิกวง "EXO" แต่ละคน กับการกลับมาที่แสนพิเศษในอัลบั้ม "Don't Fight The Feeling"
EXO บอยแบรนด์เกาหลี เตรียมปล่อยอัลบั้มสุดพิเศษ "DON'T FIGHT THE FEELING" ในวันนี้ (7 มิ.ย. 64) หลังห่างหายนานไป 2 ปีเต็ม เพราะจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงมีสมาชิกบางคนอย่าง "ซิ่วหมิน" และ "ดีโอ" ต้องเข้ากรมฯ เพื่อรับใช้ชาติอีกด้วย
ซึ่งอัลบั้มพิเศษนี้ถือเป็นการต้อนรับการกลัมมาของ "ซิ่วหมิน" และ "ดีโอ"จากการปลดประจำการทหาร หลังจาก "ซิ่วหมิน" และ "ดีโอ" ได้ร่วมกิจกรรมสุดท้ายในอัลบั้ม Tempo เมื่อปี 2018
EXO บอยแบรนด์สัญชาติเกาหลีใต้และจีน ที่ได้รับฉายาว่า "King of K-Pop" เดินทางมาครบรอบ 9 ปีแล้วนับตั้งแต่เดบิวต์เมื่อปี 2012 โดยซิลเกิ้ล "Monster" ของพวกเขาสามารถขึ้นอันดับที่ 1 ใน Billboard World Digital Songs Chart ในปี 2018 อีกทั้งยังได้ร่วมแสดงโชว์ในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 ที่พยองชางประเทศเกาหลีใต้ ด้วยความเป๊ะ ท่าเต้น การร้อง สุดแสนจะ Perfect จนได้รับฉายาว่า "King of K-Pop" อยากรู้มั้ยสมาชิกแต่ละคนมีค่าตัวเท่าไหร่ Sanook Money มีข้อมูลดีๆ จาก Seoulspace มาฝากกัน
เว็บไซต์ Seoulspace ได้รายงานถึงสมาชิกวง EXO ไว้ว่าใครมีค่าตัวแพงที่สุด โดยเริ่มต้นที่ แบคฮยอน (Baek Hyun) คาดว่ามีค่าตัวอยู่ที่ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทย 467,865,000 บาท)
โดยหนึ่งในสมาชิก EXO ที่ชื่อว่า ซูโฮ (Su Ho) เคยกล่าวในรายการ Radio Star ว่า แบคฮยอน เป็นสมาชิก EXO ที่มีค่าตัวสูงที่สุดในวง โดยมีผลงานเดี่ยวที่ทำยอดขายได้มากถึง 500,000 ก๊อปปี้ อีกทั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Burberry Korea, Lifepharm และเป็น Co-director ด้านแฟชั่นแบรนด์ Privé Alliance ด้วย ปัจจุบันมียอดผู้ติดตามใน Instagram มากถึง 21 ล้านคน
ซูโฮ (Su Ho) คาดว่ามีค่าตัวมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 311,910,000 บาท)
ซูโฮ เป็นหนึ่งในสมาชิกวง EXO ที่ Active กับการเล่นภาพยนตร์และละครเพลงโดยเขาได้รับบทให้เป็นนักแสดงในละครเรื่อง The Universe’s Star ทางช่อง MBC และยังได้เป็นนักแสดงน้ำในละครและภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง ปัจจุบัน ซูโฮ หันไปโฟกัสภาพยนตร์มากขึ้นโดยเมื่อปี 2019 เขาได้เล่นหนังสั้นเรื่อง The Present ด้วย นอกจากนี้ ซูโฮ ยังได้สิทธิให้ใช้ "Hyundai Black Card" ซึ่งบัตรนี้จะออกให้เฉพาะ VVIP ซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้ที่มีใช้เพียง 0.05% เท่านั้น ที่สำคัญเจ้าของจะต้องใช้จ่ายอย่างน้อย 10 ล้านวอน หรือ 280,000 บาทต่อเดือน และมีทรัพย์สินขั้นต่ำ 10,000 ล้านวอน (คิดเป็นเงินไทยราว 280 ล้านบาท) อีกทั้ง ซูโฮยัง เป็นตัวแทนแบรนด์ BVLGARI และแบรนด์กระเป๋าชั้นนำอย่าง Bottega ด้วย
ชานยอล (CHAN YEOL) คาดว่ามีค่าตัวมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 311,910,000 บาท)
ชานยอล ผู้จริงจังกับอสังหาริมทรัพย์มากโดยเขานำรายได้ส่วนใหญ่เข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ชานยอลยังได้ซื้อ Laptops ให้กับสมาชิกในวงด้วยเพื่อที่พวกเขาจะได้เล่นเกมออนไลน์ด้วยกัน และน้อยคนที่จะรู้ว่า ชานยอล เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในด้านการแต่งเพลงให้กับ EXO อีกทั้งยังได้รับบทบาทให้เล่นซีรี่ย์ รวมถึงภาพยนตร์เกาหลีด้วยเช่นกัน ที่สำคัญ ชานยอล เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์แบรนด์ Prada เกาหลี และยังมียอดผู้ติดตามใน Instagram มากถึง 23 ล้านคน
เลย์ (LAY) คาดว่ามีค่าตัวอยู่ที่ราว 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 280,719,000 บาท)
เลย์ ผู้เป็นทุกอย่างเขาเป็น CEO บริษัท, นักแสดง, โปรดิวเซอร์เพลง และ Fasion icon และเขายังเป็นชาวจีนคนแรกที่เป็นตัวแทนแบรนด์ Valentino อีกทั้งเขายังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์แบรนด์ดังมากมาย เช่น แบรนด์แอมบาสเดอร์ Calvin Klein, Daniel Wellington, Converse, MAC, H&M, Tide, Pizza Hut, Tencent, Chaumet และ Biotherm Homme โดยรวมแล้ว เลย์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์มากกว่า 30 แบรนด์ แต่อย่างไรก็ตาม เลย์ ก็ต้องยุติสัญญาระหว่างเขากับ Samsung เนื่องจากเป็นจุดยื่นเกี่ยวกับเรื่อง "One China Policy" เลย์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ใจบุญเมื่อปี 2016-2017 โดยเขาได้บริจาครถพยาบาลจำนวน 25 คันในช่วงงาน BAZAAR Stars Charity Nights ด้วย
ดีโอ (D.O.) คาดว่ามีค่าตัวอยู่ที่ราว 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 249,528,000 บาท)
ดีโอ เป็นหนึ่งในสมาชิกวง EXO ที่เรียกว่าเป็นนักแสดงที่ดีเลยทีเดียว โดยเมื่อปี 2016 เขาได้เล่นหนังเรื่อง Pure Love, My Annoying Brother และ Positive Physique และในปี 2017 เขาได้เล่นหนังเรื่อง Room No.7 และก่อนที่เขาจะเข้าไปรับราชการกองทัพที่เกาหลีเขาได้เล่นหนัง 3 เรื่อง ได้แก่ 100 Days My Prince, Along with the Gods: The Two Worlds และ Swing Kids เมื่อปี 2018 ซึ่งหลังจากนี้เราจะได้เห็นเขากลับมาเล่นซีรี่ย์และหนังเกาหลีอีกครั้งหลังจากที่เขารับราชการทหารในกองทัพเกาหลีเรียบร้อยแล้ว
ไค (KAI) คาดว่ามีค่าตัวอยู่ที่ราว 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 249,528,000 บาท)
ไค เป็นนักเต้นหลักของวง EXO และเคยเป็นนักแสดงมาก่อน เขาเคยพูดในรายการ Radio Star ว่าเขาเป็นสมาชิกที่ทำรายได้น้อยสุด ซึ่งไคควรได้รับการเพิ่มค่าตัวให้มากขึ้นจากต้นสังกัดจากการออกอัลบั้มเดี่ยวด้วยซ้ำ ที่สำคัญไคยังเป็นศิลปินเกาหลีคนแรกที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Gucci ระดับ Global ซึ่งเขาเองจะต้องได้รับค่าตอบแทนอย่างงาม ทีนี้ต้องดูสัดส่วนการแบ่งเปอร์เซ็นต์รายได้ระหว่าง "ไค" กับ "SM Entertainment" เชื่อว่าสาวกเกาหลีหลายคนคงทราบอยู่แล้วว่า SM Entertainment เป็นอย่างไร
เซฮุน (Sehun) คาดว่ามีค่าตัวอยู่ที่ราว 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทย 218,337,000 บาท)
เซฮุน น้องเล็กสุดของวง EXO เขาไปได้สวยกับงานนายแบบ และยังเป็นตัวแทนให้กับแบรนด์ Berluti Korea Music และ Cartier Korea อีกทั้งยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ Zegna และโฆษกของ Dr.Jart ในปี 2018 นอกจากนี้ เซฮุนเป็นศิลปินคนที่ 2 ของเกาหลีใต้รองจาก G-Dragon (วง BigBang) ที่ได้ขึ้นปก Vogue Korea อีกด้วย
ซิ่วหมิน (Xiu Min) คาดว่ามีค่าตัวอยู่ที่ราว 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทย 218,337,000 บาท)
ซิ่วหมิน นอกจากเขาจะเป็นนักร้องแล้วเขายังเป็นนักแสดงในละครเกาหลีชื่อดังด้วย เช่น Falling for Challenge ด้วย อีกทั้งเขายังได้ปล่อยเพลงเดี่ยวที่ชื่อว่า "You Are The One" ก่อนที่เข้าจะเข้ากรมกองทัพเกาหลี
เฉิน (CHEN) คาดว่ามีค่าตัวอยู่ที่ราว 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทย 218,337,000 บาท)
เฉิน ประสบความสำเร็จอย่างมากกับซิลเกิ้ลของเขาที่ชื่อว่า "Hello" ซึ่งปล่อยเพลงก่อนที่เขาจะเข้ากรมกองทัพเกาหลี และต้องยอมรับว่า เฉิน เป้นนักร้องและนักแต่งเพลงที่มีศักยภาพสูงสุดโดยเฉพาะตลาดจีน
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ