เลือกออม เลือกลงทุนแบบเข้าใจภาษี
ท่านผู้อ่านที่มีนิสัยชอบ"ความหวือหวาท้าทายแต่ผลตอบแทนสูงคุ้มค่า"คงทราบแล้วว่าการลงทุนในหุ้น มีความเสี่ยงและมีภาระทางภาษีอากรอย่างไร
หากมีความสนใจจะลงทุนในหุ้นจริงๆ คงต้องเริ่มศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้ถ้าไม่อยากให้เงินที่ตนอุตส่าห์เก็บมายาวนานสูญสลายไป
แต่หากมีผู้อ่านบางท่าน อยากลงทุนในหุ้น แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาหรืออาจมีความรู้ในการลงทุนในหุ้นไม่เพียงพอก็ยังคงมีทางเลือกให้นักลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นคือ "การลงทุนในกองทุนรวม"
"การลงทุนในกองทุนรวม" คือการรวบรวมเงินจากนักลงทุนทั่วไปของบริษัทจัดการกองทุนโดยการออกหนังสือชี้ชวนให้แก่นักลงทุนพิจารณาและนำเงินดังกล่าวไปลงทุนตามที่ได้ตกลงไว้โดยมีการจัดตั้งผู้ดูแลผลประโยชน์คอยดูแลควบคุมให้บริษัทจัดการกองทุนปฏิบัติตามหนังสือชี้ชวน และจ่ายเงินชดเชยให้กับนักลงทุนหากกองทุนล้ม ซึ่ง "ผลตอบแทนจาก
การลงทุนในกองทุนรวม"นี้นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผล (dividend)กำไร ส่วนต่าง (capital gain) หรือดอกเบี้ยรับ ส่วนลดรับ ซึ่งผลตอบแทนก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของการบริหารโดยบริษัทจัดการกองทุนและผู้จัดการกองทุนว่าจะมีความสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้น ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนจะก่อให้เกิดภาระทางภาษีอากรแก่นักลงทุนอย่างไรนั้นผู้เขียนได้เข้าไปตรวจสอบ
ข้อกฎหมายในประมวลรัษฎากร แล้วพบว่าผลตอบแทนจาก"การลงทุนในกองทุนรวม" มีอยู่3รูปแบบ แยกพิจารณา"ภาระทางภาษีอากร"ได้ดังนี้
1.ผลตอบแทนในรูปแบบของ"กำไรส่วนต่างราคาซื้อขาย"ผลตอบแทนในส่วนนี้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินกำไรที่ได้จากการส่วนต่างราคาซื้อขาย (เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์)
2. ผลตอบแทนในรูปแบบของ"เงินปันผล" ผลตอบแทนในรูปแบบนี้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อบริษัทจัดการกองทุน นำเงินไปลงทุนตามหนังสือชี้ชวน แล้วมีผลประกอบการที่ดีและนำกำไรสุทธิหลังจากเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลมาจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุน โดยบริษัทจัดการกองทุนจะหักภาษีณที่จ่ายไว้ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะนำเอาเงินปันผลดังกล่าวไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่นๆตอนปลายปีเพื่อขอเครดิตภาษี
เงินปันผลจำนวนดังกล่าวหรือไม่ก็ได้(เช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้น) หากนักลงทุนได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผล จากกองทุนที่ลงทุนไว้หลายกองทุน ซึ่งหากนักลงทุน จะนำเงินปันผลดังกล่าวไปรวมคำนวณภาษีเงินได้เพื่อขอคืนภาษีอากรนักลงทุนจะต้องนำเงินปันผลที่ได้รับทุกๆกองทุนมายื่นแบบแสดงรายการทั้งหมดไม่สามารถเลือกเพียงกองทุนใดกองทุนหนึ่งได้
3.ผลตอบแทนในรูปแบบของ"การขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ" คือผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับจากกองทุนเปิดที่นักลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในระหว่างทางก่อนครบอายุสัญญาซึ่งกองทุนประเภทนี้จะมีการจ่ายเงินคืนให้แก่นักลงทุนเป็นงวด ๆซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายละเอียดสัญญาโครงการของกองทุนรวมจะเห็นได้ว่าผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัตินี้จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ดังนั้นผลตอบแทนประเภทนี้จึงจะไม่ถูกหักภาษีณที่จ่ายเหมือนกับเงินปันผล ทำให้นักลงทุนจะได้รับเงินจากการขายคืนแบบอัตโนมัตินี้เต็มจำนวน
ท่านผู้อ่านคงจะได้เห็นแล้วว่าวิธีการลงทุนในรูปของ"การลงทุนในกองทุนรวม"ซึ่งผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับความสามารถของการบริหารโดยบริษัทจัดการกองทุนและผู้จัดการกองทุนว่าจะมีความสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้มากน้อยเพียงใด
แต่หากบริษัทประกอบกิจการไม่ดีมีภาวะขาดทุนเงินหรือไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหนังสือชี้ชวนก็ยังคงมีผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนเป็นผู้ควบคุมหรือชดเชยเงินคืนให้กับนักลงทุน
ดังที่กล่าวมาแล้วจะเห็นได้ว่า"การลงทุนในกองทุนรวม"จะมีผลตอบแทนอยู่ในอัตราที่สูงถึงแม้จะมีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นแต่ก็ยังได้รับความคุ้มครองจากผู้ดูแลผลประโยชน์กองทุน ถึงอย่างไรก็ดีเนื่องจากกองทุนมีอยู่หลายประเภท จำแนกตามการรับซื้อ และนโยบายการลงทุน ซึ่งผู้เขียนจะได้จำแนกถึงความแตกต่างให้ผู้อ่านทราบพอสังเขปก่อนตัดสินใจลงทุน
ขอบคุณข้อมูล วารสารสรรพากร