B-Garlic รับรางวัลใหญ่จาก "พาณิชย์" ลุยดันยอดขายปี 64 โต 200 ล้านบาท
กลายเป็นโจทย์ที่ท้าทายเมื่อผู้สืบทอดกิจการกระเทียมไทยในจังหวัดลำพูนต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หลังถูกกระเทียมจากต่างชาติเข้ามาตีตลาดในไทย ทำให้ราคากระเทียมไทยลดฮวบ ส่งผลกระทบถึงเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมไทยไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งผู้สืบทอดกิจการกระเทียมไทยรายนี้เลือกที่จะเพิ่มมูลค่าจากกระเทียมไทยธรรมดา ให้เป็นกระเทียมดำ ด้วยการใช้นวัตกรรมในการผลิตที่จะช่วยให้กระเทียมดำมีสารอาหารสูงกกว่ากระเทียมสดถึง 13 เท่าเลยทีเดียว
นาย นพดา อธิกากัมพู กรรมการผู้จัดการ บริษัท นพดาโปรดักส์ จำกัด หรือกลุ่มบริษัทนพดา ผู้สืบทอดธุรกิจค้ากระเทียมสด และโรงงานแปรรูปอาหารในจังหวัดลำพูน รุ่นที่ 3 เล่าว่า กระเทียมดำเป็นอาหารนวัตกรรมที่ช่วยดูแลสุขภาพ ถูกคิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเอเชีย และมีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายทั้งในญี่ปุ่น, เกาหลี รวมถึงจีนด้วย ซึ่งตนได้ร่วมศึกษาการผลิตร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) และหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ จนได้วิธีการผลิตที่เหมาะสมกับกระเทียมไทย โดยบริษัทฯ มีวิธีการผลิตและเทคโนโลยีเฉพาะของกระเทียมดำ B-Garlic เท่านั้น ที่จะสามารถควบคุมอุณหภูมิความร้อน-ความชื้นในระดับที่เหมาะสม ทำให้กระเทียมดำมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวของบริษัทฯ เท่านั้น
ปัจจุบัน บริษัท นพดา เป็นโรงงานผลิตกระเทียมดำในไทยแห่งแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิต GMP, HACCP, HALAL และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แต่เนื่องด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้นทางบริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอดให้กับสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องจนทำให้บริษัทฯ ออกแบรนด์ใหม่อย่าง “HOMTIEM” และ “N’JOY” เพื่อรองรับความต้องการของตลาดมากขึ้น
ล่าสุด บริษัท นพดาโปรดักส์ จำกัด ได้รับรางวัลใหญ่จากกระทรวงพาณิชย์ PM Export Award 2021 สาขา Best Exporter ให้กับ B-Garlic และ Best Thai Brands ให้กับ Homtiem
สำหรับสินค้าในกลุ่มบริษัทนพดา ที่วางจำหน่ายในตลาด ได้แก่ กระเทียมดำแบบมีเปลือกขนาด 500 กรัม, ขนาด 250 กรัม, 100 กรัม, 20 กรัม และกระเทียมดำแบบพร้อมทานขนาด 60 กรัม โดยตัวกระเทียมดำ B-Garlic มีรสชาติหวานทานง่าย ไม่เผ็ด ไม่ฉุน และมีคุณค่าทางสารอาหารมากมาย เช่น SAC, Arginine, Polyphenols, Proline, Leucine, และ GABA อีกทั้งยังช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต, ลดระดับน้ำตาลในเลือด ไขมัน และความดัน ปรับสมดุลในร่างกายให้ดีขึ้น ฟื้นฟูร่างกายสมรรถภาพ บำรุงสมอง และตับ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ รวมถึงช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
ส่วนช่องทางจำหน่ายนั้น บริษัทฯ จะเน้นไปทาง Home Shopping เช่น True Shopping, RS Mall, O Shopping และ Happy Shopping รวมทั้งช่องทาง Ecommerce ต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไทย พร้อมตั้งเป้ายอดขายในปี 2564 อยู่ที่ 200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 150% จากปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับ ดร.ณรงค์ ศรีเกรียงทอง ประธานสมาพันธ์ช่างผมไทย เพื่อช่วยเหลือร้านเสริมสวยที่อยู่ภายใต้แบรนด์ DCASH ในพื้นที่กรุงเทพที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยบริษัทฯ ได้นำกระชายขาวสกัดแคปซูล ให้กับทางร้านเสริมสวยได้จำหน่ายผ่านช่องทางของร้านเสริมสวยเอง เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้พนักงานในร้าน อีกทั้งที่ผ่านมา B-Garlic ได้จัดแคมเปญ “B-Garlic กระชายขาวสกัด ดี พลัส ช่วยโควิด” โดยทุกการสั่งซื้อ “กระชายขาวสกัด ดี พลัส” หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำเงินสมทบทุนให้หน่วยงานที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด-19 ซึ่งบริษัทฯ ได้ช่วยเหลือชุมชนที่อยู่บริเวณโดยรอบที่ได้รับผลกระทบ อาทิ บ้านหมูเปิ้ง ม.9 และบ้านป่าตอง ม.13 ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน เป็นมูลค่า 429,000 บาท
ทั้งนี้ B-Garlic ยังได้จัดแคมเปญ “แทนคำขอบคุณจากใจ B-Garlic แจกทอง" โดยทุกๆ การสั่งซื้อของลูกค้า จะได้รับสิทธิ์ในการร่วมลุ้นทองคำหนัก 1 บาท มูลค่า 30000 บาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เพียงกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ https://forms.gle/5Siv1yANpzGgLwUp6